ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564

11 มีนาคม 2564, 06:16น.



เตรียมเจอกันครั้งแรก! รมว.กต.จีน เยือนสหรัฐฯ หารือ รมว.กต.   




          กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จะพบกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน และนายหยาง จีฉี สมาชิกสภาแห่งรัฐของจีน ที่เมืองแองเคอเรจ รัฐแอลาสกาของสหรัฐฯ ในวันที่ 18 มี.ค.64 เป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯและจีน หลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ



          เมื่อเดือนก.พ.64 นายบลินเคน ได้เคยสนทนาทางโทรศัพท์กับนายหยาง นายบลินเคน ย้ำในประเด็นสิทธิมนุษยชน และมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา ขณะที่ นายหยาง เรียกร้องให้สหรัฐฯให้ความเคารพต่ออธิปไตยของจีน



          สหรัฐฯและจีน มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ทั้งสองฝ่ายทำสงครามการค้าตอบโต้กัน และสหรัฐฯได้ประกาศห้ามบริษัทเทคโนโลยีของจีนเข้าทำธุรกิจในสหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า มาตรการที่เขาใช้ในการรับมือกับจีนจะแตกต่างจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเขาจะทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรของสหรัฐฯในการออกมาตรการตอบโต้จีน




12 มี.ค. ‘ไบเดน’ เตรียมลงนามแพ็กเกจเยียวยาโควิด-19




          ในที่สุด กฎหมายแพ็กเกจเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มูลค่า 1,900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของประธานาธิบดีไบเดน หรือที่เรียกว่า ‘แผนช่วยเหลือชาวอเมริกัน’ ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสแล้ว หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบ การลงมติดังกล่าว ไม่มี ส.ส.พรรครีพับลิกันแตกแถวมาร่วมโหวตสนับสนุนเลย แต่มี ส.ส.เดโมแครตโหวตคัดค้าน 1 คน ขณะที่นายไบเดน ประกาศหลังจากทราบผลการลงมติว่า เขาจะลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายนี้ในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค.64





          แพ็กเกจกระตุ้นเยียวยาโควิด-19 ฉบับล่าสุด เป็นฉบับที่ 6 นับตั้งแต่เริ่มการระบาดของโควิด-19 ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากชาวอเมริกัน ผลสำรวจความคิดเห็นของศูนย์วิจัย ‘พิว’ ชี้ว่า มีผู้ใหญ่ชาวอเมริกันสนับสนุนกฎหมายนี้ถึงร้อยละ 70 โดยในจำนวนนี้เป็นพรรครีพับลิกันถึงร้อยละ 41



          อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาคองเกรสพรรครีพับลิกัน ระบุว่า แพ็กเกจนี้มีวงเงินมากเกินไป และต้องการให้ลดการใช้จ่ายลง โดยเฉพาะการจ่ายเช็กมูลค่า 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่อปีต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งพรรครีพับลิกัน มองว่า ไม่ควรมอบให้กับคนที่รายได้ไม่ได้ลดลง



          ขณะที่ พรรคเดโมแครต ยอมประนีประนอมระหว่างการอภิปรายของวุฒิสภา โดยถอดข้อเสนอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจาก 7.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง จากร่างกฎหมายสุดท้าย แต่ยังเหลือมาตรการอื่นๆ รวมถึงการจัดสรรเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับรัฐบาลระดับท้องถิ่นและระดับรัฐอีก 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้โรงเรียนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีงบประมาณ 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อขยายการตรวจเชื้อและวิจัยไวรัสโควิด-19 และอีก 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อการกระจายวัคซีนด้วย



CR:BBC




น้ำมันดิบในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น หลังฟื้นตัวจากพายุฤดูหนาว ราคาปิดตลาดเพิ่มขึ้น  




          ราคาน้ำมันในตลาดโลกขยับขึ้น แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ พบว่ากำลังผลิตน้ำมันดิบของประเทศเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ อัตราของการกลั่นเพิ่มขึ้น 13 จุด หลังฟื้นตัวจากพายุฤดูหนาวถล่มรัฐเทกซัส เมื่อเดือนที่แล้ว



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 43 เซ็นต์ ปิดที่ 64.44 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพ.ค.64 เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 67.90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

          การลงทุนในหุ้นวอลล์สตรีท ปิดบวก คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสภาคองเกรสเห็นชอบแพ็กเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19



-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 464.28 จุด หรือร้อยละ 1.46 ปิดที่ 32,297.02 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.37 จุด หรือร้อยละ 0.60 ปิดที่ 3,898.81 จุด



-แนสแดค ลดลง 4.99 จุด หรือร้อยละ 0.04 ปิดที่ 13,068.83 จุด

          ส่วนราคาทองคำ ปิดตลาดวันที่ 10 มี.ค.64  ขยับขึ้น 2 วันติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัว



-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,721.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์




เดือนเม.ย.รัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เด็กกลับไปเรียนในโรงเรียนได้



          เขตการศึกษานครลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯและสมาคมครูนครลอสแอนเจลิส ตกลงกันได้แล้วในเบื้องต้นที่จะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง หลังจากที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่ใช้ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19



-กลางเดือนเม.ย.64 นักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษา สามารถกลับไปเรียนในโรงเรียนได้



-ปลายเดือนเม.ย.64 นักเรียนระดับมัธยมศึกษา กลับไปเรียนได้



          ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการการศึกษานครลอสแอนเจลิสและสหพันธ์ครูก่อน หากทั้งสองหน่วยงานอนุมัติก็จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64




          นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เขาและ ส.ส. พรรคเดโมแครต จะมอบเงินสนับสนุนการเปิดโรงเรียนให้นักเรียนที่อยู่ในระดับชั้นไม่เกินเกรดสอง เนื่องจาก พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลงทั้งในระดับรัฐและประเทศ



          ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ใช้งบประมาณ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 203,000 ล้านบาท เพื่อทำให้นักเรียนได้กลับมาเรียนในห้องเรียนอีกครั้ง หลังถูกจำกัดการเรียนอยู่ในบ้านที่เป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19



น่าห่วง! โควิดพันธุ์ใหม่ระบาดในบราซิล  




          สถาบัน ‘ออสวัลโด ครูซ ฟาวน์เดชัน’ หรือ FIOCRUZ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพชั้นนำในบราซิล เปิดเผยว่า ระบบสาธารณสุขในเมืองใหญ่เกือบทุกแห่งในประเทศใกล้ที่จะไม่สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เตียงห้องไอซียูของโรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองเอกของ 25 รัฐจาก 27 รัฐทั่วประเทศ มีผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80



          สถานการณ์ล่าสุดในบราซิล พบผู้เสียชีวิตถึง 1,972 ราย ทำลายสถิติสูงสุดนับตั้งแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 70,000 คน สูงกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงร้อยละ 38 โดยเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่ชื่อว่า ‘P1’ พบเป็นครั้งแรกในเมืองมานาอัส ของบราซิล



          ด้านนางสมิธา มันดาซาด ผู้สื่อข่าวด้านสุขภาพของบีบีซี ระบุว่า ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังกังวลว่าบราซิลอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่



          ผลวิจัยเบื้องต้นจากมหาวิทยาลัยเซาเปาโล, ราชวิทยาลัยลอนดอน และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ชี้ว่า สายพันธุ์ใหม่มีอัตราการติดมากกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 2.2 เท่า และมีความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่น  



          บราซิลสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้วมากกว่า 200,000,000 โดส จากแอสตราเซเนกา และ โคโรนาแวค อย่างไรก็ตาม มีประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วเพียง 8,000,000 คน หรือราวร้อยละ 4 ของประชากรทั้งหมด




ออสเตรเลีย หนุนธุรกิจท่องเที่ยว-สายการบิน ชูมาตรการ ‘ตั๋วชุบชีวิต’



          วันนี้ นายกฯสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย จะประกาศแผนสนับสนุนการท่องเที่ยวและช่วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบินที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยใช้แผน ‘ตั๋วชุบชีวิต’ (ticket to recovery) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 28,373 ล้านบาท



-รัฐบาลออสเตรเลีย จะช่วยลดค่าตั๋วโดยสารร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่ง สำหรับการบินไปยังจุดหมาย 13 เมืองในประเทศ อุดหนุนเที่ยวบินโดยสารภายในประเทศ 800,000 เที่ยว ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 ก.ค.64 เพื่อให้ชาวออสเตรเลียเดินทาง 



-สนับสนุนเงินให้ 2 สายการบินหลักของประเทศ คือ แควนตัส และเวอร์จิน แอร์เวย์ ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.64 เนื่องจาก ออสเตรเลียกำหนดจะเปิดเขตแดนให้เที่ยวบินระหว่างประเทศบินเข้าออกได้



-เสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น บริษัทนำเที่ยว รายละไม่เกิน 5,000,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ118.2 ล้านบาท โดยผู้กู้ไม่ต้องชำระหนี้ในช่วง 2 ปีแรก



          การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สุดของออสเตรเลีย สร้างรายได้ปีละกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1,418,640 ล้านบาท และจ้างงานประมาณร้อยละ 5 ของแรงงานทั้งหมดของประเทศ แต่อุตสาหกรรมหยุดชะงัก เมื่อออสเตรเลียปิดเขตแดนระหว่างประเทศเมื่อเดือนมี.ค.63 เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แรงงานในธุรกิจการท่องเที่ยว กลายเป็นคนว่างงานหลายหมื่นคน และเข้ารับความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการเงินอุดหนุนค่าจ้าง (wage-subsidy scheme)

ข่าวทั้งหมด

X