16 มี.ค.ภาครัฐ นัดหารือเปิดรับการท่องเที่ยว
กรณีที่มีกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรายใหญ่ 15 บริษัท รวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว (quarantine) ตั้งแต่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป โดยส่งแคมเปญ OpenThailandSafety ให้ผู้ประกอบการและคนไทยทั่วประเทศลงชื่อแสดงพลังเพื่อส่งเสียงถึงรัฐบาล ขณะนี้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณาและหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อเป็นการทยอยเปิดและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่ประเทศไทยปิดน่านฟ้ารับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วไปมาเป็นระยะเวลาถึง 12-13 เดือนแล้ว และสูญเสียรายได้กว่า 2,000,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ พยายามหาช่องทางปลดล็อกเงื่อนไขต่างๆเพื่อให้ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเข้ามาประเทศไทย
รายงานระบุว่า ในวันที่ 16 มี.ค.64 ภาครัฐ นัดประชุมหารือร่วมกันระหว่าง 5-6 หน่วยงานหลัก เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชันเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับคนต่างชาติเข้าประเทศไทย ทั้งข้อมูลเอกสารราชการ รวมถึงติดตาม รายงาน ข้อมูลการฉีดวัคซีน และการรับรองว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามานั้นปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19
รมว.ท่องเที่ยว ปรับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตีกลับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ให้ไปพิจารณาเงื่อนไขการปฏิบัติเพิ่มเติมให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันการทุจริต ซึ่งจะต้องปรับเงื่อนไขใหม่ หลังจากนั้นจะเสนอคณะกลั่นกรองเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะออกมาทันเดือนนี้แน่นอน
การปรับโครงการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ โดยหารือกับธนาคารกรุงไทย เพิ่มข้อปฏิบัติให้รัดกุมมากขึ้น ในส่วนการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันว่าเป็นเจ้าของสิทธิจริงๆ ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรจะหารือร่วมกันอีกครั้ง เบื้องต้น ครม.อยากให้กลับมายืนยันตัวตนผู้ได้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันทั้ง 6,000,000 คนแรกก่อนว่าเป็นเจ้าของสิทธิจริงหรือไม่ ตรงนี้ระบบคงทำไม่ทัน จะหาทางเพิ่มเติมในขั้นตอน อื่นๆ แทน
ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่ปรับมาจากเที่ยวไทยวัยเก๋า จะสนับสนุนให้คนท่องเที่ยววันธรรมดามากขึ้น มีเงื่อนไขคือมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยรัฐบาลจะสมทบค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ในสัดส่วนร้อยละ 40 หรือไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อทริป ในวงเงิน 12,500 บาทขึ้นไป ต้องนำรายละเอียดทั้งหมดเสนอให้ สศช.พิจารณาอีกครั้ง เพราะใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ เบื้องต้นคาดว่าทัวร์เที่ยวไทยจะยังออกมาไม่ทันเดือนนี้ แต่เนื่องจากมีระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน คาดว่าจะออกมาช่วงเดือนพ.ค.64 เพื่อให้โครงการจบในเดือนก.ค.64 พร้อมกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
โออีซีดี คาดปีนี้เศรษฐกิจโลกขยายตัว 5.6 %
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี ปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ซึ่งนางโลเรนซ์ บูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 และการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1,900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยผลักดันให้ในปีนี้เศรษฐกิจโลกขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.6 และในอัตราร้อยละ 4 ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากรายงานเมื่อเดือนธ.ค.63 ที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวร้อยละ 4.2 ในปีนี้และร้อยละ 3.7 ในปีหน้า
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี อธิบายว่า การกระจายวัคซีนมีผลโดยตรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะจะหมายถึงการที่แต่ละประเทศกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ นอกจากนี้โครงการฉีดวัคซีนที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วยังเป็นการป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัส ขณะที่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินดังกล่าวยังช่วยให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในประเทศและส่งผลต่อผู้ผลิตทั่วโลก โออีซีดี คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่อัตราร้อยละ 6.5 ในปีนี้ และร้อยละ 4 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.2 และร้อยละ 3.5 ที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ยุโรปเร่งโครงการฉีดวัคซีน ก่อนที่จะผ่อนคลายมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนที่สำคัญก็ยังไม่ควรดำเนินชีวิตตามปกติ สิ่งที่สำคัญเวลานี้คือการผสมผสานระหว่างนโยบายด้านสุขภาพและการคลัง
นายกฯ กำชับเรื่องคุณภาพ-ความปลอดภัย ใช้งบฯกลางฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน 5 จังหวัดใต้
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,372.41 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ คือ จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส พัทลุง และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเกิดเหตุอุทกภัยในช่วงระหว่างวันที่ 27 พ.ย. -18 ธ.ค.63 เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ทำให้ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ จึงต้องได้รับการซ่อมแซม
นายกฯ กำชับว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการซ่อมแซมทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆที่ได้รับความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว โดยคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ และให้ดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด
สำหรับงานซ่อมแซมแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ คือ งานบูรณะทางหลวงแผ่นดินและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวง เช่น งานก่อสร้างและซ่อมสะพาน งานแก้ไขและป้องกันดินสไลด์ งานฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ รวม 40 รายการ วงเงิน 985.32 ล้านบาท และงานบูรณะทางหลวงชนบทและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงชนบท เช่น งานซ่อมแซมถนนและคอสะพานขาด งานก่อสร้างโครงสร้างระบายน้ำ งานป้องกันการกัดเซาะ รวม 49 รายการ วงเงิน 387.09 ล้านบาท