ตำรวจเตรียมดำเนินคดีผู้ชุมนุมหน้าศาลอาญา 6 กลุ่ม

09 มีนาคม 2564, 14:34น.


          พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ศาลอาญา โดยแบ่งการดำเนินคดีเป็น 6 กลุ่ม คือ



1.กลุ่มของ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โต้โต้ กับพวก 18 คน  มีความผิดในข้อหาสมคบตั้งแต่ 5 คน เพื่อเตรียมกระทำผิดกฎหมายอาญา เพื่อจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจได้จับกุมตามความผิดซึ่งหน้า จึงไม่จำเป็นต้องใช้หมายจับ



2.กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับ และหลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน รวม 24 คน จะมีความผิดเพิ่มเติม ฐานหลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งผู้ต้องหาได้มาแสดงตัวต่อตำรวจนครบาลพหลโยธินแล้ว และตำรวจได้รับตัวไว้แล้ว ซึ่งจะมีการพิสูจน์ทราบว่าหลบหนีจริงหรือไม่ หากพบเป็นกลุ่มที่หลบหนีจริง จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง และยังมีผู้ต้องหาบางส่วน ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะออกหมายเรียกเช่นกัน



3.กลุ่มผู้ต้องหาที่ปรากฏภาพ  เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มการ์ด ทุบทำลายรถของทางราชการ และร่วมกันชิงตัวผู้ต้องหา ทำร้ายเจ้าพนักงาน และชิงทรัพย์สิน ก็จะมีความผิด ฐานร่วมกันช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกควบคุม ให้หลุดพ้นไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน และถ้าปรากฎว่า ผู้ชุมนุมคนหนึ่งคนใดในกลุ่มนั้น ทำลายทรัพย์สินและทำร้ายเจ้าพนักงาน ก็จะมีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเพิ่มเติมด้วย



4.กลุ่มผู้ที่ปรากฎภาพ ทุบทำลายแนวรั้ว ทรัพย์สินทางราชการของศาลอาญา นำสิ่งต่าง ๆ มาเผา รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์ และบุกรุกศาลอาญา จะมีความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน  บางส่วนผิดฐานละเมิดอำนาจศาล และจะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 ด้วยหรือไม่



5.กลุ่มผู้ชุมนุมอื่น ๆ จะเข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ



6.กรณีเมื่อ 23.00 น. ที่ตำรวจ ตชด. ที่ 31 กำลังเดินทางกลับมีกลุ่มคนใช้ลูกเหล็ก หนังสติ๊ก และอาวุธปืน ยิงใส่รถตำรวจเป็นเหตุให้รถทางราชการได้รับความเสียหาย พนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าการกระทำของผู้ชุมนุมเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานด้วยหรือไม่



          รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เตือนว่า ขณะนี้เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ประกาศห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค  การชุมนุมหรือการมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะมีความผิดตามกฎหมาย



          ส่วนกรณีที่นายโตโต้อ้างว่า ทรัพย์สินหายไป จากการตรวจสอบพบว่า ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มบุคคลมาทุบทำลายรถของทางราชการ และแย่งชิงตัวผู้ต้องหา รวมทั้งของกลางบางส่วนไป มีการชิงหรือปล้นทรัพย์สินส่วนตัวของตำรวจ  ซึ่งจะต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง โดยในส่วนทรัพย์สินของตำรวจที่หายไป มีทั้งโทรศัพท์มือถือ พระเลี่ยมทอง สร้อยคอ ยังต้องรอให้เจ้าของที่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว เข้าแจ้งความในภายหลัง  



 

ข่าวทั้งหมด

X