ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันอังคารที่ 9 มีนาคม 2564

สมุทรสาคร เปิดให้กลุ่มเสี่ยง 7 โรค พื้นที่สีแดง ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน

          ประชาชนชาว อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในพื้นที่สีแดง และกลุ่มเสี่ยง 7 โรค เริ่มทยอยลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดย 3 ตำบลเสี่ยงลงทะเบียนได้ช่วง 5-12 มี.ค. 64 ส่วนตำบลอื่นๆ เริ่ม 15-22 มี.ค. 64  องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จะเริ่มฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 64 เป็นต้นไป วันละประมาณ 500 คน การเปิดรับจองการฉีดวัคซีน มีประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนขอเข้ารับการฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง

-พื้นที่ ต.ท่าทราย หมู่ที่ 6-8 จะเปิดรับลงทะเบียนประชาชนทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด เนื่องจาก มีแรงงานอยู่เป็นจำนวนมากจนต้องมีการทำ Bubble&Seal ในกลุ่มนี้จะมีประชาชนที่สามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 10,000 คนเศษ

-หมู่อื่นๆ ที่เหลือของ ต.ท่าทราย จะเปิดรับเฉพาะผู้ที่เป็นโรคประจำตัว 7 โรค อายุระหว่าง 18-59 ปี เท่านั้น โดยมีอยู่ประมาณกว่า 2,000 คน

-พื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร โรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ใช้วิธีการลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนแบบ “Walk in” โดยลงทะเบียนได้ที่ รพ.สต. 23 แห่ง, อบต. 11 แห่ง, เทศบาล 6 แห่ง, โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลนครท่าฉลอม โรงพยาบาลวัดบางปลา และโรงพยาบาลวัดเกตุมดีฯ ในวันและเวลาราชการเท่านั้น

‘หมอธนรักษ์’ ขอให้กลุ่มเสี่ยง ในพท.สมุทรสาคร ฉีดวัคซีน

         นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติงานหรือบริหารจัดการ (CEO) ในเขตสุขภาพที่ 5 (เขตตรวจราชการที่ 2, 3และ 4) ประกอบด้วย 8 จังหวัด คือ จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อวานนี้ไปตรวจเยี่ยมสมุทรสาครมาเพื่อดูความพร้อมและความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีน ทีมสาธารณสุขสมุทรสาครพร้อมและดำเนินการได้ก้าวหน้าดีทีเดียว หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชากรกลุ่มเป้าหมายที่จะออกมารับวัคซีนกัน 

          วัคซีนซิโนแวค ที่นำมาใช้ครั้งนี้เป็นวัคซีนเชื้อตาย  เป็นเทคโนโลยีที่เรารู้จักกันมาพอสมควรแล้ว เป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันการป่วยได้ดี ป้องกันการเกิดอาการรุนแรง และป้องกันการเสียชีวิตได้ดีมากๆ แถมที่ผ่านมาก็มีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดีด้วย ใครรู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มที่ควรจะได้รับวัคซีนในล็อตแรก  บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)  เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงควรรีบแสดงตัวและขอรับวัคซีนที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่และหากเจ้าหน้าที่ติดต่อไปให้มารับวัคซีน ก็ควรไปรับวัคซีน วัคซีนฟรีสำหรับคนไทย ไม่มีค่าใช้จ่ายหากคิดจะหยุดโรคระบาด  ต้องหยุดที่ต้นตอ เรายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

CR:เฟซบุ๊ก นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์

ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ออกกำลังกาย ทำตามแผนฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรง

          รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบทางเดินหายใจ เปิดเผยข้อมูล อาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร ว่าได้ร่วมสังเกตการณ์ใกล้ชิดในระหว่างการออกกำลังกายประจำวันภายใต้การควบคุมของนักกายภาพบำบัด โดยมีเครื่องมือติดตามการแลกเปลี่ยนก๊าซอยู่ตลอดเวลา รับรองว่าหากเป็นตามแผนการฟื้นฟูอย่างเข้มข้นนี้ สมรรถภาพร่างกายต้องกลับมาใกล้เคียงเดิมอย่างแน่นอน

          ย้อนไป 10 วันก่อน คืนและวันของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร อยู่ได้ด้วยการเสริมความเข้มข้นออกซิเจนในอากาศที่ใช้หายใจให้อยู่ระหว่าง 27-30% (ออกซิเจนในบรรยากาศรอบตัวเราปกติอยู่ที่ 20.9%) เพื่อให้ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดอยู่ระหว่าง 92-94% (คนปกติมีค่าอย่างน้อย 95%) เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานของเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย เมื่อปอดของท่านเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องควบคู่ไปกับกล้ามเนื้อช่วยหายใจที่แข็งแรงขึ้น การพึ่งพาออกซิเจนจึงค่อยๆ หดหายไป เริ่มจากการลดความเข้มข้นในระหว่างวันลงจนหยุดได้ ยกเว้นให้เสริมแต่เวลาฝึกออกกำลังกายและตอนนอนกลางคืน ต่อมาก็ไม่ต้องใช้เพราะระหว่างและหลังออกกำลังกายระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดไม่ต่ำกว่าระดับที่ปลอดภัยคือ 85% และในท้ายที่สุดในระหว่างนอนกลางคืนก็ไม่จำเป็นต้องใช้ สายออกซิเจนจึงนับเป็นพันธนาการเพื่อสุขภาพชิ้นสุดท้ายที่ถูกกำจัดได้เมื่อร่างกายหายจากการป่วยไข้ครั้งร้ายแรง โดยทั่วไป กรณีผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงที่ฟื้นตัวดีเช่นนี้ แพทย์อาจให้กลับบ้านไปพักฟื้นต่อพร้อมให้ใช้ออกซิเจนชั่วคราวที่บ้านจนหมดข้อบ่งชี้

          กรณีของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ทีมศิริราชห่วงว่าหากส่งบุคคลที่หายใจเข้าออกเป็นงานเป็นการกลับคืนถิ่นเร็วไป ด้วยความไม่ยอมอยู่นิ่งคงหาเรื่องทำโน่นนี่นั่นไปเรื่อย จนร่างกายอาจฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ จึงขอเวลาแฟนคลับอดใจรอกันอีกระยะหนึ่ง และยังขอให้งดเยี่ยมแบบต่อหน้าและผ่านสื่อต่างๆ ไปอีกระยะก่อน อีกอย่างภูมิต้านทานของร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์ทีเดียวนัก จึงอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนจากสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ง่าย รวมถึงการติดโควิดซ้ำใหม่และด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านอยู่ในข่ายต้องได้รับวัคซีนโควิดเช่นเดียวกับกลุ่มเสี่ยงอื่น

          แม้ว่าร่างกายจะฟื้นกลับมาแล้วหลายส่วน แต่การกลับไปทำหน้าที่พ่อเมืองอย่างสมบูรณ์ยังต้องอาศัยการกักตุนซ่องสุมพละกำลังทั้งกายและใจอีกพอควร ทีมศิริราชและครอบครัววิจิตร์แสงศรีจึงวางแผนร่วมกันว่า ในอีกไม่นานนี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาครคงจะต้องโบกมืออำลาจากศิริราชแล้ว โดยวางแผนว่าจะไปแสดงตัวให้พี่น้องชาวสมุทรสาครและลูกน้องในสังกัดประจักษ์ในศักยภาพที่หวนกลับคืนมา จากนั้นคงจะเอางานบางส่วนกลับไปทำที่บ้านพักที่อ่างทองในระหว่างที่ร่างกายยังไม่คืนกลับมาเต็มร้อย ส่วนการปรึกษาหารือข้อราชการต่างๆ กับลูกน้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นคงใช้ระบบสารสนเทศมาช่วยได้ และเมื่อพร้อมเต็มที่ปูตัวนี้ที่แข้งขาไม่ค่อยยอมอยู่สุข จะได้กลับสู่ (สมุทร) สาครอย่างถึงพร้อมให้สมกับที่มีการเฝ้ารอคอย เพื่อออกเดินทางเยี่ยมเยียนรับรู้เรื่องราวความเป็นไปของบ้านเมืองที่รับผิดชอบให้ถ้วนทั่วในทุกตารางนิ้ว

CR:รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล,สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.สมุทรสาคร   

ทีมแพทย์ ตรวจเชิงรุกชุมชนอิสลาม อ. แม่สอด ตั้งเป้าตรวจให้ได้  500 คน

          การคัดกรองเชิงรุกในชุมชนอิสลาม อ. แม่สอด จ.ตาก การปิดสถานที่เข้า-ออก ชุมชนอิสลามแม่สอด เขตเทศบาลนครแม่สอด เป็นเวลา 5 วัน หลังเจ้าหน้าที่ทีมตรวจโควิด-19 เชิงรุกตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 กลุ่มใหม่จำนวนหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้นำการละหมาด ภายในชุมชนอิสลามติดเชื้อโควิด-19 รวมอยู่ด้วย 1 คน  ขณะนี้กลุ่มผู้ป่วยกลุ่มใหม่ล่าสุดซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่รวมกันแบบครอบครัว และบางคน อาศัยอยู่ในบ้านพักอย่างแออัดบริเวณท้ายชุมชนอิสลาม ถูกส่งตัวไปรักษาที่ตึกผู้ป่วยโควิด-19 โรงพยาบาลแม่สอด นอกจากนี้ยังเร่งนำตัวกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำอีกหลายสิบคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มครอบครัวผู้ป่วยรายใหม่นี้นำไปกักตัวเพื่อรอดูอาการภายในพื้นที่กักตัวของรัฐเขต อ.แม่สอด ทีมแพทย์ชุดตรวจโควิด-19 เชิงรุกจากโรงพยาบาลแม่สอดและฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ล็อกดาวน์ท้ายชุมชนอิสลามเพื่อตรวจสารคัดหลั่งทั้งคนไทยและคนต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงซึ่งตั้งเป้าการตรวจไว้ที่ 500 ตัวอย่าง

ปทุมธานี พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก  2 คน แจ้งคนที่มีความเสี่ยงตรวจคัดกรอง

          สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 2 คน ผู้ป่วยสะสม 612 คน มีการแจ้งเตือนประชาชนเรื่องให้บุคคลที่มีความเสี่ยงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เข้าเกณฑ์ ด้วยการให้เจ้าบ้าน หรือ ผู้ควบคุมบ้าน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล ผู้ทำการชันสูตร เจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หน่วยงานและองค์กรหรือสถานที่อื่นใด หากพบผู้สงสัยหรือผู้ป่วยยืนยันให้แจ้งข้อมูลกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่ปกปิดข้อมูลที่จำเป็นที่อาจส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรค