ผลวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์(ห้องแล็บ) โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส เผยแพร่ผลวิจัยในวารสารการแพทย์ เดอะ นิวอิงค์แลนด์ เจอร์นาล ออฟ เมดิซีน(New England Journal of Medicine) ของสหรัฐฯ ศึกษาตัวอย่างเลือดจากอาสาสมัคร 15 คนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากบราซิล หรือสายพันธุ์ P.1 และฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว 2-4 สัปดาห์ ทีมวิจัยพบว่าวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯ-เยอรมนี สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากบราซิล หรือ สายพันธุ์ P.1
นักวิจัย ระบุว่าวัคซีนที่ผ่านการวิจัยเมื่อปีที่แล้วเพื่อรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดดั้งเดิมยังคงใช้ได้ผลดี สามารถช่วยยับยั้งโปรตีนปลายแหลมของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ไม่ให้เติบโตต่อไป ทั้งนี้ เชื้อไวรัสโควิด-19 จะใช้โปรตีนปลายแหลมเจาะเข้าสู่เซลล์ในร่างกายของคน ทำให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เป้าหมายหลักของบริษัทวิจัยวัคซีนคือการพัฒนาวัคซีนเพื่อยับยั้งโปรตีนนั้นไม่ให้เติบโต
ก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยจากบริษัทไฟเซอร์ ได้พิมพ์เผยแพร่ผลวิจัยในวารสารการแพทย์ เดอะ นิวอิงค์แลนด์ เจอร์นาล ออฟ เมดิซีน ฉบับที่แล้ว พบว่าวัคซีนจากไฟเซอร์สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษและแอฟริกาใต้เช่นกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กรณีของเชื้อไวรัสจากแอฟริกาใต้ ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจจะลดลงบ้าง แต่โดยรวมบริษัทไฟเซอร์ มั่นใจว่าวัคซีนของบริษัทยังสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้
ขณะเดียวกัน บริษัทไฟเซอร์ อยู่ระหว่างวางแผนศึกษาเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 พร้อมทั้งจะปรับเปลี่ยนส่วนผสมของวัคซีนใหม่ เพื่อให้สามารถป้องกันเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Cr: Reuters, Forbs