ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564
นายกฯ เผยเร่งหารือผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมก่อนสงกรานต์
แนวทางผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม มาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ทั้งการเดินทางในทุกพื้นที่ จะต้องมีมาตรการรองรับว่าจะปกป้อง ป้องกัน โควิด-19 ซึ่งขณะนี้ กิจกรรมต่างๆอยู่ระหว่างการหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือ ศบค. รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน สิ่งสำคัญที่สุดเป้าหมายสุดท้ายคือ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ขึ้นมาอีก เพราะเป็นการเคลื่อนที่ของประชาชนจำนวนมากในช่วงสงกรานต์ ซึ่งตนก็อยากให้ช่วงสงกรานต์เศรษฐกิจเดินหน้า ทั้งเรื่องการค้าขาย การท่องเที่ยว โรงแรมต่างๆให้มีรายได้ เพื่อฟื้นฟูสร้างรายได้ที่หายไปช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทันเวลา และจะมีความชัดเจนก่อนสงกรานต์แน่ เพื่อให้ทันต่อการวางแผนเดินทางล่วงหน้า รวมถึงการจองที่พักโรงแรม ไม่ใช่ประกาศตอนวันสงกรานต์
ผู้ประกอบการถนนข้าวสาร หารือเขตพระนครสัปดาห์หน้า เดินหน้าจัดสงกรานต์ข้าวสารปีนี้ฟื้นเศรษฐกิจหลังซบเซาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
การจัดสงกรานต์บนถนนข้าวสารในปีนี้ นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้ประกอบการในถนนข้าวสารเห็นตรงกันว่า ถนนข้าวสารจะจัดงานสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้แน่นอน เพื่อเป็นการฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวตามนโยบายของภาครัฐ ส่วนรูปแบบการจัดงานจะออกมาเป็นอย่างไร อยู่ระหว่างจัดทำแผนเพื่อนำเสนอต่อผู้อำนวยการเขตพระนครในสัปดาห์หน้า ได้แก่รูปแบบการจัดงาน และการจำกัดจำนวนเข้าออก เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ตามมาตรการโควิด-19 ถึงจะมีความชัดเจนว่าจะออกมารูปแบบใด ยืนยัน ถนนข้าวสารจัดงานสงกรานต์ 64 แน่นอน หลังจากที่ผู้ประกอบการไม่มีรายได้ตั้งแต่โควิด-19แพร่ระบาดและปิดประเทศไปเมื่อกลางปี63
สำหรับการจัดงานสงกรานต์ถนนข้าวสารในปีนี้ จะเน้นการจัดกิจกรรมแบบNew Normal ซึ่งรูปแบบที่มีการพูดคุยกันไว้เบื้องต้น คือ ช่วงเช้าวันที่13 เมษายน จัดกิจกรรมเป็นประเพณีไทย ทำบุญตักบาตร ในช่วงบ่ายจะมีเวทีการแสดง และจะเปิดให้เล่นน้ำได้เฉพาะช่วงเวลา 15.00 น.- 20.00 น. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคนไทย เดินทางมาเที่ยวถนนข้าวสารในช่วงจัดงานสงกรานต์ ราว 20,000 คนต่อวัน มีสะพัดประมาณ 20 ล้านบาท จากอดีตที่เคยทำรายได้ต่อวันถึง 100 ล้านบาท
ไทยรับมอบวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้ว รัฐมนตรีอายุเกิน 60 ปี แจ้งความประสงค์ต้องการฉีดวัคซีน-ถามนายกฯพรุ่งนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. และผู้บริหาร สธ. รับมอบวัคซีนโควิด 19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา 117,300 โดส ที่คลังเก็บวัคซีน กรมควบคุมโรค(คร.) โดยวัคซีนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐาน จากนี้จะส่งตัวอย่างส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ ซึ่งวัคซีนนี้จะช่วยให้ฉีดครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย บุคลากรอายุ 60 ปีขึ้นไปใน 5 จังหวัด และบุคคลสำคัญของประเทศ
โดยในวันพรุ่งนี้จะสอบถามนายกฯ ว่ามีความพร้อมแล้ว ส่วนจะฉีดวันไหนท่านจะกำหนดลงมา อย่างไรก็ตาม นายกฯ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะฉีดวัคซีน เพราะเป็นผู้นำประเทศ แสดงเจตจำนงว่าจะฉีดเพื่อให้เกิดความมั่นใจ มีการเดินทางบ่อยๆ ประชุมพบปะคนจำนวนมาก
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีรัฐมนตรีที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี และแจ้งความประสงค์ต้องการฉีดวัคซีนแล้ว คือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนแอสตราเซเนกาเบื้องต้นจะกระจายไปใน 5 จังหวัดเพื่อฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คือ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ จังหวัดละหลักหมื่นโดส ส่วนที่เหลือจะสำรองไว้กรณีที่มีพื้นที่ระบาด เช่น จ.ตาก
จีน เตรียมตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนให้กับชาวจีนในต่างแดนระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.นี้
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า จีนจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้กับชาวจีนในประเทศต่างๆกว่า 50 ประเทศ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมนี้ โดยจีนจะตั้งศูนย์วัคซีนเพื่อฉีดให้กับชาวจีนต่างแดน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย นอกจากนี้ ประเทศจีนจะออกใบรับรองสุขภาพให้กับผู้โดยสารต่างชาติในประเทศจีน เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆสามารถตรวจสอบข้อมูลเรื่องการตรวจและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกรณีผู้โดยสารนั้นๆเดินทางไปต่างประเทศ
นายหวังย้ำว่า ทางการจีนจะให้ความสำคัญกับเรื่องการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น นอกจากนี้ นายหวังย้ำจุดยืนของจีนที่สนับสนุนให้มีการกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรมไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งจีนได้ส่งมอบวัคซีนให้กับ 69 ประเทศทั่วโลกและส่งออกวัคซีนไปยัง 43 ประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมากว่า 60 ประเทศอนุมัติให้ใช้วัคซีนจากประเทศจีนเนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ประเทศจีนได้บริจาควัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติภารกิจที่รักษาสันติภาพจากหลายประเทศ และอยู่ระหว่างประสานกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เพื่อส่งมอบวัคซีนสำหรับฉีดให้กับคณะนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะจัดการแข่งขันในกรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคมจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นี้
อนุทิน เผยจีนให้วัคซีนซิโนแวคไทยเพิ่มอีก 8 แสนโดส ขอความร่วมมือตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนให้ชาวจีน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังการหารือ กับนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้ามาหารือวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า มาหารือ 4 เรื่อง ได้แก่
1.อุปทูตของจีนยืนยันว่า ทางการจีนอนุมัติวัคซีนซิโนแวค 8 แสนโดสให้ไทยแล้ว คาดว่ามาถึงไทยประมาณวันที่ 25 มี.ค.
2.ขอให้ไทยช่วยพิจารณาฉีดวัคซีนโควิดให้คนสัญชาติจีนที่พำนักอยู่ในไทย เรารับในหลักการ โดยไทยจะทำหนังสือขอรับการสนับสนุนวัคซีนจากจีนในฐานะมิตรประเทศ ซึ่งหากให้วัคซีนมาก็อาจระบุเงื่อนไขว่าให้ดูแลคนจีน
3.ขอให้พิจารณาร่วมกับประเทศจีน จัดตั้งศูนย์การฉีดวัคซีนให้ชาวจีนโพ้นทะเลในภูมิภาคอาเซียนหรืออินโดจีน ถ้าทำได้จะเกิดผลดีกับไทย จะได้นักท่องเที่ยวด้วย เพราะต้องฉีด 2 โดส กรมควบคุมโรคจะต้องไปหารือร่วมกับจีนว่าระหว่างรอฉีดเข็ม 1 เข็ม 2 จะสามารถท่องเที่ยวในไทยภายใต้มาตรการความปลอดภัยอย่างไร
และ 4.เรื่องการยอมรับวัคซีนพาสปอร์ตระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ผ่านการเข้าเมืองไม่ยุ่งยาก ช่วยให้การกลับคืนภาวะปกติได้เร็วยิ่งขึ้น เศรษฐกิจเริ่มมีการหมุนเวียน ซึ่งไทยและจีนต้องรีบทำก่อนที่คนอื่นจะทำ เพื่อให้คนท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจเดินหน้า ซึ่งหากชาติอื่นๆ ประสงค์อยากจะทำเช่นนี้ก็ได้ เรายินดี
ส่วนค่าบริหารจัดการในการฉีดวัคซีนให้คนจีน นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องหารือกัน สมมติเขาให้วัคซีนมาหลายล้านโดสแต่จีนมีประมาณ 2 แสนคน หากให้ไทยช่วยฉีดให้ ดีหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย ทั้งหมดนี้ต้องเจรจากันก่อน และปรึกษากระทรวงการต่างประเทศถึงรูปแบบการออกหนังสือ ขอรับการสนับสนุนจากทางการจีนต้องทำอย่างไร
สธ.พร้อมให้รพ.เอกชน ร่วมจัดหาวัคซีนฉีดคนไทย
หลังการหารือร่วมกับภาคเอกชน รพ.เอกชน เรื่องของนโยบายการนำเข้ามาซึ่งวัคซีน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนให้ รพ.เอกชนได้นำเข้าวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนแล้วโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการฉีดวัคซีนนั้นต้องขึ้นทะเบียนทั้งตัววัคซีน และรพ.ที่จะฉีด เพื่อให้ประชาชนไปรับวัคซีนได้สะดวก ส่วนการนำเข้าและขั้นตอนนำเข้าต่างๆ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมพิจารณาให้การรับรองอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทยได้ยื่นแสดงความจำนงสนับสนุนวัคซีนเพื่อฉีดให้กับแรงงานต่างด้าว ซึ่งต้องขอบคุณที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้
ด้าน นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคม รพ.เอกชน กล่าวว่า ในภาคเอกชนเท่าที่ทราบบางที่ก็ไปจดบริษัทนำเข้ายาและชีววัตถุ และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอย. ซึ่งได้รับการชี้แจงจาก อย.ว่าหากเอกสารครบก็ใช้เวลาในการพิจารณา 30 วัน และตอนนี้ทราบว่ามีการติดต่อกับบริษัทขายวัคซีนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน หรือประเทศในแถบตะวันตก เข้าใจว่าความคืบหน้าที่สุดมีเท่านี้ ส่วนตัวอย่างวัคซีนเมื่อเข้ามาก็จะส่งให้ อย.เพื่อส่งต่อกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบต่อไป ส่วนเรื่องราคาวัคซีนก็เป็นไปตามกลไกตลาด
กทม.แจงฉีดวัคซีนโควิด ตามเป้าไม่ล่าช้า ผลข้างเคียงน้อยมาก 0.4%
พล.ต.ท. โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การให้วัคซีนของกรุงเทพมหานครเป็นไปตามเป้าหมาย ผ่านสัปดาห์แรกที่มีเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า กรุงเทพมหานครดำเนินการไปได้ร้อยละ91 ยังขาดอยู่ 200 คน หรือประมาณร้อยละ8 เป็นเพราะเหตุผลส่วนตัวเช่นติดงานหรือมีไข้ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได ไม่ใช่เป็นเพราะระบบบริหารจัดการ โดยการฉีดวัคซีนของกรุงเทพมหานครในระยะแรกนี้ เชื่อว่าต้องทำอย่างรอบครอบ ต้องดูถึงผลข้างเคียง จากที่ฉีดไปทั้งหมด 3,000 กว่าราย เกิดผลข้างเคียงรุนแรง 2 ราย และไม่รุนแรง 11 ราย คิดเป็น ร้อยละ0.4 ซึ่งถือว่าน้อยมาก อยากให้ประชาชนคลายความกังวล
หุ้นไทยลดเล็กน้อย รับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพิ่ม
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,543.76 จุด ลดลง 0.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 108,474.21 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดทำการกระโดดรับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันพุ่งและวุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ช่วงบ่ายไหลลงและปิดลบเล็กน้อยหลังตามตลาดหุ้นเอเชียเหนือหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นต่อเนื่อง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่สหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่นั้น จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพุ่งขึ้น ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 28,743.25 จุด ลดลง 121.07 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 28,540.83 จุด ลดลง 557.46 จุด
กฟภ.เกาะสมุย ขอรถโมบายปั่นกระแสไฟฟ้า จ่ายไฟบนเกาะสมุย หลังเรือรบหลวงอ่างทอง ทอดสมอกระทบจุดวางสายเคเบิลใต้ทะเล
ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ หลายในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกิดกระแสไฟฟ้าดับนายจักรกฤษณ์ มีเดช ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอเกาะสมุย เปิดว่า สาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าดับ เนื่องจากเรือรบหลวงอ่างทอง ได้ทอดสมอเพื่อทำการจอดเรือห่างจากชายฝั่งอำเภอเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 ก.ม. ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับจุดที่มีการวางสายเคเบิลใต้ทะเลขนาด 115 kv ที่ส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนอม มายังสถานีไฟฟ้าแห่งที่ 2 ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย ทำให้สายเคเบิลใต้ทะเลตรงจุดดังกล่าวเกิดความชำรุดเสียหาย ทำให้โรงไฟฟ้าขนอมไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ามายังเกาะสมุยได้
ซึ่งสถานีไฟฟ้าแห่งที่ 2 บนเกาะสมุย ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้พื้นที่อำเภอเกาะสมุยในบางส่วน และอำเภอเกาะพะงันในบางส่วน จึงทำให้ในพื้นที่ ตำบลแม่น้ำบางส่วน ตำบลบ่อผุด และตำบลมะเร็ตบางส่วน อำเภอเกาะพะงันบางส่วน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าแบบสลับกันใช้ โดยจะหมุนเวียนจ่ายไฟพื้นที่ละ 1 ชม.และดับไฟ 3 ชม.สลับกันไปทั่วทั้งเกาะ
นอกจากนั้น ยังได้ประสานขอรถโมบายปั่นกระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่จากพื้นใกล้เคียง เดินทางมายังเกาะสมุย เพื่อระดมปั่นกระแสไฟฟ้าเสริมเข้าในระบบจ่ายไฟฟ้า เพื่อเพิ่มปริมาณไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันในระยะนี้ ขณะเดียวก็ต้องขอความร่วมมือผู้ใช้ไฟฟ้า ให้ช่วยกันประหยัดไฟในช่วงนี้ ส่วนการซ่อมแซมสายเคเบิลใต้ทะเลที่ชำรุด ในเบื้องต้นทางผู้เชี่ยวชาญต้องมีการสำรวจความเสียก่อน เพื่อประเมินเวลาในการซ่อมแซม โดยเชื่อว่าคงจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์