หลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติใน 2-3 เรื่องหลัก คือ
1.เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับคนที่ได้วัคซีนครบถ้วน จะได้ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด จากโรงพยาบาล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากจะเดินทางไปต่างประเทศ สามารถนำใบรับรองมาขอสมุดเล่มเหลืองหรือวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งมีทั้งในรูปแบบเอกสารหรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีค่าธรรมเนียมการออกเอกสารอย่างละ 50 บาท ส่วนการนำไปใช้เดินทางจริง ยังต้องรอข้อตกลงระหว่างประเทศก่อน
2.การลดวันกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ เห็นชอบใน 3 รูปแบบ คือ
1) คนต่างชาติมีใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 14 วันแต่ไม่เกิน 3 เดือนก่อนเดินทาง มีเอกสาร รับรองปลอดโควิด-19 จำนวน 72 ชั่วโมง ลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน
2) คนไทยมีเอกสารรับรองฉีดวัคซีน แต่ไม่มีเอกสารปลอดโควิด-19 ให้ลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน และ
3) คนต่างชาติไม่มีใบรับรองฉีดวัคซีนโควิด แต่มีเอกสารรับรองปลอดโควิด-19 ให้ลดกักตัวเหลือ 10 วัน
แต่ยังยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาให้คงการกักตัว 14 วันตามเดิมไม่รวมคนที่เดินทางมาจากอังกฤษและบราซิลที่พบเชื้อกลายพันธุ์เช่นกัน เนื่องจากพบว่า วัคซีนยังไม่ครอบคลุมการติดเชื้อของสายพันธุ์แอฟริกา ส่วนที่มาจากแอฟริกาแล้วจะมีการมาต่อเครื่องประเทศอื่น ไม่ต้องกังวล
ด้านข้อตกลงเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตขององค์การอนามัยโลก นายอนุทินกล่าวว่า องค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างหารือ ซึ่งเราทำเสร็จก่อน อาจเป็นตัวอย่างไปขยายผล อันไหนพร้อมก็ทำก่อน ซึ่งอายุของวัคซีนพาสฟอร์ต โดยหลักการมีอายุประมาณ 1 ปี แต่ถ้ามีข้อมูลว่า วัคซีนครอบคลุมน้อยกว่า1 ปี ก็ปรับลดลง จึงต้องมีการศึกษาข้อมูล เช่นการตรวจภูมิคุ้มกันเป็นระยะในคนที่รับวัคซีนไปแล้วว่าเป็นเช่นไร ซึ่งตนก็ตรวจไปแล้ว 3 วันหลังฉีดภูมิยังไม่ขึ้น แต่ก็แสดงว่า ยังไม่มีการติดเชื้อ สัปดาห์หน้าก็ต้องตรวจใหม่
สำหรับมาตราการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการ เม.ย.นี้ ส่วนช่วงเดือนตุลาคมนี้ หากฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม ร้อยละ 70 บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเป้าหมายที่อาจป่วยรุนแรง รวมถึงกลุ่มทำงานด้านท่องเที่ยวครบตามกำหนด อาจผ่อนคลายมากขึ้นโดยไม่ต้องมีการกักตัว โดยจะเสนอต่อ ศบค.ใหญ่พิจารณาต่อไป
3.การปรับรูปแบบสถานกักกัน และผ่อนคลายกิจกรรมให้มากขึ้น
ส่วนสถานการณ์การเมืองของพม่า นายอนุทิน ย้ำว่า ปัญหาการข้ามแดนตามชายแดนธรรมชาติ ได้ให้ สธ.เตรียมพร้อมรับมือ พร้อมนย้ำ หน่วยงานความมั่นคงในที่ประชุมให้ช่วยตรึงชายแดนมากที่สุด ขอให้เข้าออกอย่างถูกต้อง จัดสถานที่กักตัวตามชายแดน ถ้าจำเป็นอาจตั้ง รพ.สนาม แต่สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นนั้น
แฟ้มภาพ