ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือ 67 ดอลลาร์ อุตสาหกรรมน้ำมันซาอุฯ ถูกโจมตี

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย.64 พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 1.71 แตะที่ระดับ 67.22 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังจากที่กระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มีโดรนลำหนึ่งบินขึ้นจากทะเลและพุ่งเป้าโจมตีถังเก็บน้ำมันที่ท่าเรือรัสทานูราซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก แต่กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ยิงสกัดเอาไว้ได้ทันและทำลายโดรนลำดังกล่าวก่อนที่โดรนจะเคลื่อนตัวถึงเป้าหมาย

         เมื่อเวลา 09.15น. ตามเวลาในประเทศไทย ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 2.54 แตะที่ระดับ 67.93 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

         ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือน พ.ค.64 พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 2.50 ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.62

         มีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ยิงโดรนและขีปนาวุธเพื่อหวังโจมตีแห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค อย่างไรก็ดี กองทัพซาอุดีอาระเบียสามารถยิงสกัดการโจมตีดังกล่าวได้ทัน ซึ่งทำให้แหล่งผลิตน้ำมันไม่ได้รับความเสียหาย

          กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ว่า การโจมตีของกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะพุ่งเป้าทำลายซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของอุปทานพลังงานโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกด้วย

         สาเหตุดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงสงครามเยเมนที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ระหว่างกลุ่มกบฎฮูตีและรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย แม้สหรัฐฯพยายามเรียกร้องให้สองฝ่ายยุติการเป็นศัตรูกันก็ตาม