ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564

08 มีนาคม 2564, 08:52น.


'นกแอร์' เร่งเจรจากับเจ้าหนี้เครื่องบินให้จบ ยื่นแผนฟื้นฟู15 มี.ค.



          นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นกแอร์ เตรียมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ในวันที่ 15 มี.ค. 64 ยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะยื่นแผนฟื้นฟูได้ทันตามกำหนดหรือไม่ จะพยายามเร่งเจรจากับเจ้าหนี้เครื่องบินให้จบ หากไม่จบก็สามารถยื่นขอต่อศาล ขยายระยะเวลายื่นแผนได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน



          การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ค่าเช่าเครื่องบินบางรายจากทั้งหมด 10 ราย ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจาก เจ้าหนี้บางรายยื่นมูลหนี้สูงกว่าความเป็นจริง โดยมีการคิดบวกรวมหนี้ในอนาคตด้วย นกแอร์ กำลังเร่งเจรจา ซึ่งเจ้าหนี้เครื่องบินกว่าร้อยละ 50 สามารถเจรจาตกลงกันได้แล้ว



          การปรับโครงสร้างองค์กร ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานอยู่ 1,511 คน ขณะนี้ยังไม่สามารถจัดทำแผนการปรับกำลังคนได้ เนื่องจากต้องรอผลเจรจากับเจ้าหนี้ค่าเช่าเครื่องบินว่าจะปรับลดหนี้ และจะต่อสัญญาเช่าเครื่องบินให้จำนวนกี่ลำ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจำนวนของลูกเรือและนักบิน



          ส่วนเจ้าหนี้ผู้โดยสารได้แก้ไขปัญหาเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเจ้าหนี้บัตรโดยสารรายเก่าเกิดก่อนวันที่ 4 พ.ย. 63 บริษัทได้ทยอยจ่ายคืนตั๋วโดยสารทั้งหมดแล้ว ส่วนเจ้าหนี้รายใหม่มีเพียง 40 ราย ซึ่งมีมูลหนี้ไม่ถึง 1,000,000 บาท อยู่ระหว่างทยอยจ่ายคืนหนี้



          นายวุฒิภูมิ กล่าวว่า ส่วนกระแสเงินสดของบริษัท ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะยังมีกระแสเงินสดหมุนเวียนในบริษัทได้มากกว่า 90 วัน ไม่รวมรายได้ที่เข้ามาทุกวัน รวมทั้งปัจจุบันนกแอร์อยู่ในช่วงพักจ่ายหนี้ มั่นใจว่าตลอดการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูช่วง 3-5 ปี นกแอร์จะไม่มีปัญหาขาดกระแสเงินสดที่จะใช้ในการบริหารธุรกิจแน่นอน เพราะได้เจรจากับผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว เพื่อขอสนับสนุนวงเงินกู้ฉุกเฉิน นำไว้ใช้ในระหว่างที่บริษัทอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ มั่นใจว่า นกแอร์ต้องรอดและผ่านการฟื้นฟูกิจการแน่นอน



นายกฯ ประชุมขับเคลื่อน 5G พิจารณา 3 โครงการนำร่อง

         นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานโทรคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันนี้  กสทช. จะรายงานความคืบหน้าโครงการที่ได้เสนอไปในที่ประชุมครั้งก่อน โดยเฉพาะความคืบหน้าโรงพยาบาลอัจฉริยะ (สมาร์ท ฮอสพิทัล) ที่ร่วมทำกับโรงพยาบาลศิริราช และการติดตั้งโครงข่าย 5G ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งในส่วนของ กสทช. ได้เข้าไปติดตั้งโครงข่าย 5G ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนความพร้อมของโรงงานในพื้นที่ ผู้ที่ต้องอัพเดตข้อมูลคือนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ปัจจุบันทราบว่าอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมโรงงานในพื้นที่



นอกจากนี้ จะมีการเสนอโครงการนำร่อง ได้แก่



1.โครงการบริหารจัดการน้ำแบบอัจฉริยะ ซึ่งจะใช้ระบบเซ็นเซอร์สั่งจ่ายน้ำ โดยจะเริ่มจากจังหวัดอุดรธานี หากการทดลองสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ จะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป



2.การติดตั้งโครงข่าย 5G ในสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้บริการต่อประชาชน และสร้างความเสถียรในการให้บริการที่ต้องใช้การสื่อสารทางออนไลน์ โดยจะทำการศึกษาร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบแล้ว จะเริ่มดำเนินการทันที โดยตั้งเป้าศึกษาและติดตั้งให้เสร็จก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ หรือภายในเดือนพ.ย. 64



3.การพัฒนาเรื่องระบบการศึกษาโดยใช้โครงข่าย 5G ซึ่งจะเริ่มนำร่องในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนขยายไปจังหวัดอื่นต่อไป



          ทุกโครงการที่จะเสนอเข้าที่ประชุมในครั้งนี้ หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบแล้ว พร้อมขับเคลื่อนได้เลย และสรุปผลการใช้งบประมาณ



กกร. เร่ง นายกฯ ประชุม ศบศ.กระตุ้นศก.



          นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเร่งประชุมศูนย์บริการสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ภายในเดือนนี้ และให้บรรจุวาระที่นำเสนอโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เนื่องจาก ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 เปลี่ยนไปแล้ว ภาคเอกชนมีหลายอย่างที่ต้องการให้รัฐเร่งดำเนินการ และอยากให้ประชุมทุกเดือน เพื่ออัพเดตสถานการณ์ต่อเนื่อง




         มาตรการที่เอกชนต้องการนำเสนอ เช่น แผนการออกวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยไม่ต้องกักตัว เชื่อว่า วัคซีนพาสปอร์ต จำเป็นต้องใช้กันทั่วโลกในอนาคตเพื่อความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาด

โคราช เล็งจัดโซนนิ่งสาดน้ำ

          นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง กรณีรัฐบาลเตรียมพิจารณาผ่อนคลายให้สามารถจัดเทศกาลสงกรานต์ได้ทั่วประเทศ ภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่าจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือกันเพื่อวางแผนจัดงานเทศกาลสงกรานต์จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจต้องให้แต่ละอำเภอหาพื้นที่ หาถนนสักเส้นทำเป็นโซนนิ่งสำหรับจัดเทศกาลสงกรานต์ให้ประชาชนมาเล่นน้ำได้ กำหนดทางเข้า-ออก ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจคัดกรองคนเข้าออกได้ ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนรายละเอียดการจัดพื้นที่เล่นน้ำ ต้องรอผลสรุปการประชุม อาจจะจัดสงกรานต์แบบประเพณีไทย หรือมีพื้นที่เล่นสาดน้ำได้พอสมควร แต่ไม่ปล่อยให้เล่นสาดน้ำกันแบบแออัด ชุลมุน เปิดเครื่องเสียง หรือดื่มสุราเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด




เอกชน ขอรัฐบาลขยายเวลานั่งกินอาหาร-ดื่มในร้านถึงเที่ยงคืน  



          นายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยในกลุ่มสมาชิกสมาคมและผู้ประกอบการต่างๆ ได้เสนอถึงรัฐบาลและศบค. ประกาศให้ชัดเจนถึงการอนุญาตให้จัดงานหรือกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและผู้ประกอบการหรือธุรกิจได้เตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องการเพิ่มสต๊อกสินค้า และเพิ่มการให้บริการ โดยเฉพาะเรื่องความพร้อมของแรงงาน เพราะเหลือเวลาไม่มาก หากจะผ่อนปรนจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้ ต้องใช้เวลาเตรียมอย่างต่ำก็ 1-2 สัปดาห์ ด้านสถานที่ก็ต้องรออนุญาตจากเขตพื้นที่และการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ล้วนต้องใช้เวลาล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ โดยผู้ประกอบการยังพร้อมจัดกิจกรรมบนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และภายใต้ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะหากมีการพบเชื้อหรือเหตุการณ์อะไรก็ยังใช้เป็นมาตรการสั่งให้ระงับได้



          เรื่องที่ภาคธุรกิจอยากให้รัฐบาล และ ศบค.ผ่อนปรน คือ การขยายเวลาการนั่งทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มภายในร้านค้าหรือสถานที่จัดงานออกไปอีก 1-2 ชั่วโมง จากขณะนี้ไม่เกิน 23.00 น. เป็น 24.00 น. ถึง 01.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เทียบจากก่อนหน้านี้ ที่มีการขยายเวลานั่งทานนั่งดื่มในร้านอาหารหรือภัตตาคารถึง 23.00 น. ทำให้ยอดขายฟื้นได้ดีระดับหนึ่ง



 

ข่าวทั้งหมด

X