ฝรั่งเศส อาจใช้มาตรการห้ามการส่งออกวัคซีนโควิด-19 เหมือนอิตาลี

          นายโอลิวิเยร์ เวรอน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส เปิดเผยว่า อาจใช้มาตรการห้ามการส่งออกวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศเหมือนกับอิตาลี ซึ่งทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับกระแสชาตินิยมในวัคซีนเพิ่มขึ้น

          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีห้ามแอสตราเซเนกาส่งออกวัคซีนจำนวน 250,000 โดสที่มีการผลิตในโรงงานของอิตาลีไปยังออสเตรเลีย โดยอ้างถึงข้อบังคับของกลุ่มสหภาพยุโรป ที่อนุญาตให้ประเทศสมาชิกสามารถยับยั้งการส่งออกวัคซีนของบริษัทที่ยังส่งวัคซีนให้สหภาพยุโรปได้ไม่ครบตามข้อตกลง ซึ่งรัฐมนตรีสาธารณสุขของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสก็สามารถใช้มาตรการเดียวกันนี้ได้ ทั้งยอมรับว่ามีการหารือกับอิตาลีและสมาชิกของสหภาพยุโรปเพื่อให้มีการดำเนินการในทางเดียวกัน

          ความขัดแย้งระหว่างสหภาพยุโรปกับแอสตราเซเนกาเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม เมื่อบริษัทแจ้งว่าจะส่งวัคซีนล่าช้า เนื่องจากสายการผลิตมีความล่าช้า แต่จะสามารถส่งวัคซีนได้ครบตามข้อตกลงได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปออกมาตรการใหม่เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีอำนาจในการจำกัดการส่งออกวัคซีนไปยังประเทศนอกกลุ่มในบางสถานการณ์ นายเอริค มาเมอร์ หัวหน้าโฆษกของสหภาพยุโรป ระบุว่า บริษัทต่างๆที่สหภาพยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงการจัดซื้อต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปฏิบัติตามสัญญา และเป็นความจริงที่ว่าสหภาพยุโรปคือผู้ส่งออกวัคซีนรายใหญ่ ทั้งขอให้สมาชิกใช้ข้อบังคับปิดกั้นการส่งออกวัคซีน

          อย่างไรก็ตาม นายจอห์น เดนตัน เลขาธิการหอการค้าระหว่างประเทศ หรือไอซีซี เตือนว่าแม้จะมีความเข้าใจแรงกดดันทางการเมืองในยุโรป แต่การปิดกั้นการส่งออกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนในประเทศ เป็นมาตรการที่อันตรายมาก เพราะความท้าทายของโครงการวัคซีนจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือระดับโลก และยังไม่สายเกินไปที่ยุโรปจะเปลี่ยนแนวทางและหลีกเลี่ยงความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับสังคม และเศรษฐกิจเมื่อมีการระบาดที่ยืดเยื้อ

....