ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564
คมนาคม เรียก รฟม. ชี้แจงจันทร์นี้ ปมเวนคืนที่ดินวัดเอี่ยมวรนุช สร้างสถานีรถไฟฟ้าบางขุนพรหม
ปัญหาการเวนคืนที่ดินวัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม เพื่อก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 11.00 น. กระทรวงคมนาคม ได้เชิญการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)มาร่วมประชุมเพื่อหามาตรการลดผลกระทบทั้งในด้านการก่อสร้าง และการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคม ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดไปยังรฟม.ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ รวมทั้งขอให้ รฟม.พิจารณามาตรการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อวัดเอี่ยมวรนุช และชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ให้กระทบกระเทือนต่อที่ธรณีสงฆ์ และในการดำเนินโครงการในอนาคตต่อไป รฟม. ต้องเพิ่มการให้ความสำคัญกับการสื่อสารทำความเข้าใจกับชุมชนและสาธารณะ รวมทั้งลงพื้นที่เพื่อสื่อสารกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่มีความละเอียดอ่อน เพื่อสร้างการยอมรับของชุมชนตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ
รอลุ้นคนละครึ่งเฟส 3 กำลังมา
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังออกแบบรายละเอียดโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เพื่อให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พิจารณาอีกครั้ง โดยสาเหตุที่ต้องมีการเปิดเฟสใหม่เพิ่มเนื่องจากต้องการให้ภาคเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย สินค้าและบริการกว่า 2 ล้านราย โดยเมื่อสรุปแล้วจะเร่งเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป
“โครงการคนละครึ่งเฟส 3 นั้น จะนำร้านค้าและภาคบริการ รวมถึงบริการขนส่งสาธารณะต่างๆ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า เป็นต้น ให้สามารถใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งได้ด้วยเหมือนโครงการเราชนะ ส่วนรูปแบบหลักเกณฑ์ต่างๆ จะเหมือนโครงการคนละครึ่งเฟสที่ผ่านมา ส่วนจะมีการลงทะเบียนใหม่ เพื่อให้เพิ่มเพิ่มจำนวนผู้เข้าโครงการมากกว่า 15 ล้านคน หรือจะขยายจำนวนถึง 30 ล้านคนเท่ากับโครงการเราชนะหรือไม่นั้นต้องรอดูเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ก่อนว่าเพียงพอหรือไม่ แต่ใครอยากได้จะต้องให้ ส่วนจะต่อเนื่องหลังจากโครงการคนละครึ่งเฟส 2 สิ้นสุดในเดือน มี.ค.2564 นี้หรือไม่นั้น ต้องดูอีกครั้ง แต่มองว่าอาจจะต้องทิ้งช่วงไปก่อนหลังจากจบโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ
หุ้นไทยปิดบวกสวนกระแสหุ้นเอเชีย รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,544.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 104,811.72 ล้านบาท หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังกลุ่มโอเปกพลัส มีมติคงกำลังการผลิตน้ำมัน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ แต่ตลาดลดช่วงติดลบลงหลังจากนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนก่อนกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 28,864.32 จุด ลดลง 65.79 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นเหนือระดับร้อยละ1.5 หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่าสหรัฐฯอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อหลังเปิดเศรษฐกิจ
ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 29,098.29 จุด ลดลง 138.50 จุด
ตร.พบไปป์บอมบ์ 18 ลูก คาดโยงม็อบ 6 มีนา
ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ปทุมวัน จับกุมนายพิเชษฐ์ ขุนกำแหง อายุ 43 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 18 แท่ง และรถยนต์ปิคอัพ 1 คัน
โดยก่อนการจับกุม บริเวณแยกปทุมวันเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บร-7818 พิษณุโลก ขับรถส่ายไปมาลักษณะ ต้องสงสัย จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ จากนั้นจึงได้เข้าไปสอบถามผู้ขับขี่พบเป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี พูดจาวกไปวนมา ไม่ได้ใจความ จึงได้เชิญตัวมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ทราบชื่อภายหลังคือนายพิเชษฐ์ ขุนกำแหง
จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบ
1.แท่งท่อพีวีซีสีฟ้า พันเทป ลักษณะคล้ายระเบิด จากการสอบถามนายพิเชษฐ์ ให้การว่าเป็นคนประกอบระเบิดขึ้นเองทั้งหมด 18 แท่ง
2.กระเป๋าย่ามสีเหลือง ภายในมีปืนแก๊บประดิษฐ์เอง และ ผงดำลักษณะคล้ายดินปืนบรรจุในขวดพลาสติกกลมเล็ก 2 ขวด
จากนั้นประสานหน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นระเบิดประเภทไปป์บอมบ์ จำนวน 18 แท่ง ต่อวงจรครบ มีดินระเบิด พร้อมใช้งานมีรัศมีทำลายล้าง 3-5 เมตร ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ไม่พบบรรจุสะเก็ดระเบิดอื่นๆ
มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม นำตัวชายดังกล่าวไปสอบสวนมีความเชื่อมโยงในการเตรียมมาก่อเหตุในการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่ม็อบนัดชุมนุมหลายจุดซึ่งเป็นสถานที่ราชการสำคัญทั่วกรุงเทพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้
ปทุมธานี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 8 คน
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปทุมธานี ประจำวันที่ 5 มีนาคม 2564 ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 คน แบ่งเป็น
ระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3 คน เป็นคนไทย
-และจากการตรวจค้นเชิงรุก 5 คน แบ่งเป็นคนไทย 2 ต่างชาติ 3
-ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 603 คน รักษาหาย จำนวน 25 คน
ผบ.ตร. สอบต่อ ตร.ติดเชื้อโควิด-19 หลังเข้าพื้นที่จ.สมุทรสาคร
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ติดไวรัสโควิด-19 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควอรันทีนที่โรงพยาบาลแล้วรวม 24 คน โฮมควอรันทีน 16 คน รวมผู้ป่วย 1 คนเป็น 41 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พบว่า ติดเชื้อไปปฏิบัติหน้าที่วันที่ 28 ก.พ. นั้นไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า มีหน้าที่เพียงคุมรถผู้ต้องหา
โดยขณะนี้ ได้นำตัวมาดูอาการที่โรงพยาบาลตำรวจ 24 คน รวมคนที่ป่วยเป็น 25 คน ส่วนที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้าพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องระวังเรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้คงต้องมีการสอบสวนโรคต่อแต่ในชั้นต้นเป็นอย่างนี้และได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาไปซักถามติดตามผลแล้วว่าไปเพราะอะไร สมควรไปไหม มีความผิดอะไรอย่างไรค่อยมาว่ากันตรงนั้น ส่วนคืบหน้าอย่างไรจะให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลแถลงให้ทราบต่อไป
ออสเตรเลียขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปทบทวน หลังอิตาลียับยั้งการส่งออกวัคซีนโควิด-19
ออสเตรเลียได้ขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปทบทวนกรณีที่อิตาลีปิดกั้นการส่งออกวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาจำนวน 250,000 โดสที่ผลิตโดยโรงงานที่ตั้งอยู่ในอิตาลี และอิตาลีระบุว่า การปิดกั้นการส่งออกนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป เนื่องจากผู้ผลิตยาไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันในสัญญาที่ทำไว้กับสหภาพยุโรป
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ออสเตรเลียได้แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นต่อคณะกรรมาธิการยุโรปผ่านหลายช่องทาง เพื่อขอให้ทบทวนการตัดสินใจยับยั้งการส่งออก อย่างไรก็ตามในเวลานี้ออสเตรเลียได้รับวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาแล้ว 300,000 โดส และฉีดเข็มแรกให้กับแพทย์ในวันนี้ (5 มี.ค.)
ออสเตรเลียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนโดยใช้วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ฉีดให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนวหน้าและผู้สูงอายุ
ความเคลื่อนไหวของอิตาลียังมีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว กล่าวกับผู้นำสหภาพยุโรปคนอื่น ๆ ว่าประเทศภาคีสมาชิกจะต้องเร่งการฉีดวัคซีนและจัดการบริษัทยาที่ไม่สามารถส่งมอบเวชภัณฑ์ตามสัญญา เพราะแม้ว่าประเทศในสหภาพยุโรปจะเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่เมื่อปลายเดือนธันวาคม แต่มีความคืบหน้าล่าช้ากว่าอีกหลายประเทศ
นักวิจัย ย้ำยังไม่พบเบาะแสต้นตอโควิด-19 จากไทยและกัมพูชา
สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) ได้รายงานว่า คณะนักวิจัยทางการแพทย์พบว่า ตู้แช่แข็งของห้องปฏิบัติการในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา และท่อระบายน้ำชลประทานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในไทย ไม่ใช่สถานที่ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการแกะรอยต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 คณะนักวิจัยจากสถาบันปาสเตอร์ (Institut Pasteur) ในกัมพูชาได้ศึกษาตัวอย่างที่เก็บจากค้างคาวมากกว่า 400 รายการ และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่แข็งของธนาคารทรัพยากรชีวภาพ ซึ่งพวกเขาพบว่า เชื้อไวรัสจากค้างคาวอายุนับสิบปีรายการหนึ่งนั้น มีลักษณะใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ถึง ร้อยละ 92.6 นับเป็นหนึ่งในเชื้อไวรัสโคโรนากลุ่มแรกที่ถูกค้นพบนอกประเทศจีน แต่คณะนักวิจัยของกัมพูชาไม่พบข้อบ่งชี้ที่ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาจากค้างคาวดังกล่าว จะทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์เหมือนกับเชื้อไวรัสโควิด-19
ด้านผลการศึกษาอีกฉบับของคณะนักวิจัยในไทยซึ่งเก็บตัวอย่างจากค้างคาวจำนวน 100 ตัวที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำชลประทานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งหนึ่งพบว่า เชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่พบมีลักษณะใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึงร้อยละ91.5 ในระดับจีโนมทั้งหมด
หวัง หลินฟา ผู้อำนวยการโครงการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่สังกัดโรงเรียนแพทย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยดุ๊กแห่งสหรัฐฯ (Duke-NUS Medical School) ในสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผลตรวจเลือดบ่งชี้ว่าค้างคาวบางส่วนเคยติดเชื้อไวรัสที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาที่พบในไทย การค้นพบเหล่านี้บ่งชี้ว่า มีเชื้อไวรัสโคโรนาที่เชื่อมโยงกับโรคโควิด-19 กระจายตัวเป็นวงกว้างในเอเชีย โดยนายหวังกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในบรรพบุรุษค้างคาวหรือเชื้อไวรัสในสัตว์ตัวกลาง อาจจะมีอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีความหลากหลายของค้างคาวมากกว่าในประเทศจีน
ญี่ปุ่นขยายเวลาภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและปริมณฑล อีก 2 สัปดาห์
นายนิชิมูระ ยาซูโตชิ รัฐมนตรีที่ดูแลด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจและรับผิดชอบเรื่องการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจขยายภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไปอีก 2 สัปดาห์เฉพาะพื้นที่กรุงโตเกียวและ 3 จังหวัดในเขตปริมณฑลคือ ไซตามะ, ชิบะและคานางาวะ โดยจะมีผลไปจนถึงวันที่ 21 มีนาคมนี้
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 11 จังหวัด รวมถึงกรุงโตเกียวตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ซึ่งตามกำหนดเดิมจะสิ้นสุดในวันอาทิตย์นี้
ภายใต้มาตรการภาวะฉุกเฉิน รัฐบาลท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจบาร์และร้านอาหารปิดให้บริการภายในเวลา 20.00 น.รณรงค์ให้ประชาชนงดเว้นการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน มาตรการนี้มุ่งเน้นลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ อีกทั้งจะทำให้โรงพยาบาลต่างๆในกรุงโตเกียวและเขตปริมณฑลมีเตียงคนไข้มากพอที่จะรองรับผู้ป่วยใหม่
ด้านนายจูนิชิ มากิโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์เอสเอ็มบีซี นิกโก ซิเคียวริตีส์ของญี่ปุ่นคาดว่าการที่ภาครัฐขยายภาวะฉุกเฉินต่ออีก 2 สัปดาห์จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเสียหายราว 360,000 ล้านเยน ลดจีดีพีของญี่ปุ่นร้อยละ 0.05 ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม 435,548 คน เสียชีวิต 8,052 ราย
“อิทธิพล” ยัน ต้องปิด Pornhub ต่อไป ชี้ กระทบต่อศีลธรรมอันดี มีความเสี่ยงต่อเยาวชน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส และเป็นแคนดิเดต จะโยกตำแหน่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงดีอีเอส ตอบคำถาม สื่อมวลชนถึงทิศทางการควบคุมเว็บ Pornhub ว่า จริงๆ ไม่ใช่เรื่องเดียว เนื่องจากเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กระทบกับความเสี่ยงที่เยาวชนจะเข้าไป
ส่วนจะมีการพิจารณาเปิดเว็บ และจัดเรทอายุผู้เข้าชมหรือไม่นั้น นายอิทธิพล ระบุว่า กรณีนี้เข้าข่ายที่จะกระทบต่อศีลธรรมอันดี ยืนยันว่า ยังคงต้องปิดเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป