นักวิทยาศาสตร์ ย้ำผลวิจัยโควิด-19 ติดได้ง่ายในกลุ่มคนเลือดกรุ๊ป เอ

04 มีนาคม 2564, 19:52น.


          นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 (SARS-CoV-2) ตัวการก่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 อาจมีความสามารถในการติดต่อสู่มนุษย์ที่มี “หมู่โลหิตเอ” มากกว่าหมู่อื่นๆ ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ผ่านวารสารการแพทย์ด้านโลหิตวิทยา Blood Advances เมื่อ 3 มี.ค. 2564 ผลการศึกษาพบว่า ส่วนที่ไวรัสใช้จับกับเซลล์เป้าหมาย เรียกว่า receptor binding domain หรืออาร์บีดี โดยประเมินประสิทธิภาพในการจับกับเซลล์ระบบทางเดินหายใจมนุษย์ที่มีหมู่โลหิต เอ บี โอ และเอบี เทียบกับเซลล์เม็ดเลือดแดงจากคนเลือดกรุ๊ปเอ บี โอ และเอบี ผลที่ได้พบว่า ไวรัสชนิดนี้มีความสามารถจับกับเซลล์ระบบทางเดินหายใจมนุษย์ที่มีหมู่โลหิต เอ ได้มากกกว่าหมู่โลหิตอื่น ส่วนในเซลล์เม็ดเลือดแดงนั้นไม่มีผลแตกต่าง ส่งผลให้คณะวิจัยสรุปว่า อาจช่วยอธิบายความเชื่อมโยงกลไกการติดเชื้อของผู้มีหมู่โลหิตเอได้



          นายแพทย์ฌอน สโตเวลล์ ผู้นำคณะวิจัยจากโรงพยาบาลสตรี นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การพบว่าไวรัสชนิดนี้ชื่นชอบแอนตีเจนเอ ที่พบในเนื้อเยื่อทางเดินหายใจเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะคาดว่าน่าจะเป็นกลไกการติดเชื้อหลักที่เกิดขึ้น  อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัย ระบุว่า การวิจัยนี้ไม่สามารถนำมาพยากรณ์การเกิดโรคได้ทั้งหมด เนื่องจากกลไกการติดเชื้อของไวรัสชนิดนี้มีมากกว่าที่กล่าวถึงในการวิจัย



          เมื่อปีที่แล้วนักวิจัยในเยอรมนีและนอร์เวย์ได้ศึกษาและค้นพบว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ (A+) มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด-19 สูงกว่า และมีอาการรุนแรงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น        


           ผลการวิจัยครั้งนี้ ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณเกือบ 2,000 คนในอิตาลี และสเปน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

ข่าวทั้งหมด

X