ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันพุธ 3 มีนาคม 2564

03 มีนาคม 2564, 05:48น.


สหรัฐฯ และ อียู คว่ำบาตร จนท.รัสเซีย ฐานวางยาพิษ ‘นาวาลนี’



          สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลรัสเซีย 7 คนกับนิติบุคคลอีก 14 ราย หลังหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ มีข้อสรุปว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการวางยาพิษนายอเล็กซี นาวาลนี แกนนำฝ่ายค้านเมื่อเดือน ส.ค. 63 จนเกือบทำให้เขาต้องเสียชีวิตและเรียกร้องให้รัสเซียปล่อยตัวนายนาวาลนี ซึ่งขณะนี้กำลังรับโทษจำคุกในกรุงมอสโกด้วย



          ด้านสหภาพยุโรป(อียู) ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซีย เช่นกัน โดยมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐบาล 4 คนที่เกี่ยวข้องกับการจำคุกนายนาวาลนี ได้แก่ นาย อเล็กซานเดอร์ คาลาชนิคอฟ หัวหน้ากรมราชทัณฑ์รัสเซีย, นายอเล็กซานเดอร์ บาสตรีคิน ประธานคณะกรรมาธิการสืบสวน, พล.ท.ไอกอร์ คราสนอฟ อัยการสูงสุด และ นายวิคตอร์ โซโลตอฟ ผู้อำนวยการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิรัสเซีย



          ขณะที่นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน ประณามการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป



          นายนาวาลนี นักรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชันวัย 44 ปี เคยต้องโทษจำคุกมากกว่า 10 ครั้งจากความพยายามเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีปูติน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มฝ่ายค้าน และผู้สนับสนุนเขาหลายคนชนะเลือกตั้งเข้าสู่สภาแคว้นไซบีเรียเมื่อปี 63 ด้วย



          เมื่อเดือนส.ค.63 นายนาวาลนีถูกวางยาพิษและอยู่ในอาการโคม่า ขณะเดินทางโดยเครื่องบินไปไซบีเรีย ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่เยอรมนี แพทย์พบร่องรอยว่าถูกยาพิษโนวิชอคของรัสเซีย ก่อนที่เขาจะพักฟื้นจนหายและเดินทางกลับรัสเซียและถูกจับกุมตัวทันทีที่เดินทางถึง



          ศาลรัสเซียมีคำตัดสินเมื่อเดือนก.พ.64 ว่า นายนาวาลนีละเมิดเงื่อนไขการรอลงอาญาจากคดียักยอกทรัพย์ เนื่องจากไม่ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ในช่วงที่เขารักษาตัวในเยอรมนีทำให้โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปีครึ่งของเขามีผลทันที ทำให้นายนาวาลนี ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำในกรุงมอสโก



อินโดฯ ฟิลิปปินส์ มาเลย์ เรียกร้องปล่อยตัว ‘ซูจี’



          นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่าที่ประชุมหารือสถานการณ์ในเมียนมาและการระบาดของโรคโควิด-19



-ที่ประชุมแสดงความกังวลสถานการณ์ในเมียนมา สมาชิกอาเซียน ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนเมียนมาให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ ด้วยวิธีการเชิงบวก สันติ และสร้างสรรค์



          ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกบางประเทศ เรียกร้องให้เมียนมาปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทางการเมืองและเปิดให้ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติด้านเมียนมา ได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำให้สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น ในส่วนของไทยให้ความสำคัญกับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคซึ่งมีอาเซียนเป็นแกนกลาง และเน้นย้ำว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของเมียนมาต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาในเมียนมาอย่างสันติและยั่งยืน



          รายงานระบุว่า นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย เรียกร้องการปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทางการเมือง และเรียกร้องการฟื้นฟูประชาธิปไตย ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าประเทศในอาเซียนจะไม่ฝ่าฝืนคำมั่นว่าจะไม่แทรกแซงกิจการของกันและกัน เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์เรียกร้องการปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี เช่นเดียวกัน



-ความร่วมมือของอาเซียนในการฟื้นฟูสถานการณ์ภายหลังโควิด-19 ที่ประชุมย้ำความสำคัญในการเร่งจัดซื้อวัคซีนโดยใช้เงินจากกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 และการจัดทำ ASEAN Travel Corridor Arrangement เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกันในอาเซียน



CDC ไฟเขียวฉีดวัคซีน ‘จอห์นสัน’ ให้คนที่มีอาการแพ้ ‘ไฟเซอร์- โมเดอร์นา’



          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) สามารถนำมาใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มที่ 2 ทดแทนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นา หากผู้รับวัคซีนเข็มแรกมีอาการแพ้วัคซีนของทั้งสองบริษัท



          CDC ระบุว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นา ใช้เทคโนโลยีแบบ mRNA และจำเป็นต้องมีการฉีด 2 เข็ม ซึ่งหากผู้รับวัคซีนมีอาการแพ้วัคซีนของทั้งสองบริษัท ก็ขอให้รอเวลา 28 วัน นับจากการฉีดวัคซีนเข็มแรก จึงจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน



          ก่อนหน้านี้ CDC แนะนำว่าผู้ที่มีอาการแพ้วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอร์นาก็ให้ยกเลิกการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แต่หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา CDC ก็ได้แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นวัคซีนเข็มที่ 2



‘ไบเดน’ เตรียมประกาศให้ ‘เมอร์ค’ จับมือ ‘จอห์นสัน’ ผลิตวัคซีนโควิด



          เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ จะประกาศให้บริษัทเมอร์ค ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ ช่วยเหลือบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 การประกาศดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน



          รัฐบาลเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวน 3,900,000 โดส ภายในสัปดาห์นี้ แต่ก็มีความกังวลว่าการผลิตวัคซีนจะต่ำกว่าเป้าในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่รัฐบาลต้องการกระจายวัคซีนอีกกว่า 16,000,000 โดส ภายในสิ้นเดือนนี้



          ภายใต้ข้อตกลงที่จะมีขึ้น เมอร์ค จะใช้โรงงาน 2 แห่งในสหรัฐฯ สำหรับการผลิตวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน



          รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งหาโรงงานเพิ่มการผลิตวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หลังจากบริษัทผลิตวัคซีนได้ล่าช้ากว่ากำหนด และในที่สุดรัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงกับเมอร์คในการช่วยผลิตวัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะที่เมอร์คได้ล้มเลิกโครงการพัฒนาวัคซีนของตนเอง เนื่องจากผลการทดลองทางคลินิกพบว่าวัคซีนของบริษัทไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19



ญี่ปุ่น เพิ่มรายชื่อ 13 ชาติ เมื่อเดินทางถึงต้องกักตัว-ตรวจหาเชื้อ



          รัฐบาลญี่ปุ่น เพิ่มรายชื่ออีก 13 ประเทศ ให้คนที่เดินทางจากประเทศดังกล่าวจะต้องถูกกักตัว 14 วัน  พร้อมกับแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง และจะต้องมีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 3 หลังเดินทางมาที่ญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์



          13 ประเทศดังกล่าว ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม บราซิล เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย สโลวาเกีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์



          ประเทศที่อยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าวก่อนหน้านี้ ได้แก่ ไอร์แลนด์ อิสราเอล อังกฤษ แอฟริกาใต้ และรัฐแอมะซอนของบราซิล



อินโดฯ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ 2 คน



          ทางการอินโดนีเซีย ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษจำนวน 2 คน นายดานเต ซัคโซโน ฮาร์บูโวโน รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขอินโดนีเซีย ยอมรับว่าการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษจะทำให้การทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น



          อินโดฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยมีจำนวนกว่า 1,300,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 36,000 ราย สูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน



         ด้านนายวิคู อาดิซาสมิโต โฆษกชุดเฉพาะกิจในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ



         นอกจากอินโดนีเซียแล้ว ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ก็เป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษเช่นกัน



โจรไนจีเรียปล่อยแล้ว! นักเรียนหญิง 279 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน



          นายเบลโล มาตาวัลเล ผู้ว่าการรัฐซามฟารา ของไนจีเรีย เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมสตรีวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอนของรัฐบาลในเมืองจานเกเบ รัฐซามฟารา ที่ถูกกลุ่มคนร้ายบุกลักพาตัวไปจากโรงเรียนเมื่อช่วงรุ่งเช้าวันเสาร์ 27 ก.พ.64 จำนวน 279 คน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระทั้งหมดแล้ว ทุกคนปลอดภัยดี แต่ประมาณ 10 คน ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล จากอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า



          รายงานข่าวตอนแรกระบุว่า มีนักเรียนหญิงถูกลักพาตัวไปทั้งหมด 317 คน แต่โฆษกผู้ว่าการรัฐซามฟารา กล่าวว่า เด็กหลายคนวิ่นหนีเข้าไปข้างโรงเรียน และมีเด็ก 279 คนถูกกวาดต้อนขึ้นรถยนต์หลายสิบคันขับหลบหนีไป



          เจ้าหน้าที่ไนจีเรีย ไม่เปิดเผยเบื้องหลังของการปล่อยตัว รวมทั้งสังกัดของกลุ่มคนร้าย ขณะที่ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรีย กล่าวเตือนว่า รัฐบาลไนจีเรียไม่มีนโยบาย และไม่เคยจ่ายเงินค่าไถ่ให้กลุ่มโจรลักพาตัว เจ้าหน้าที่และประชาชน ไม่ควรจ่ายเงิน เนื่องจากยิ่งจะทำให้กลุ่มโจรก่อเหตุไม่สิ้นสุด



         โรงเรียนกินนอนทั้งชายและหญิง ทางภาคเหนือของไนจีเรีย กลายเป็นเป้าหมายลักพาตัวหมู่เรียกค่าไถ่ของกลุ่มติดอาวุธซึ่งมีอยู่หลายสิบกลุ่ม การหาเงินด้วยวิธีนี้เริ่มจากกลุ่มโบโกฮาราม ซึ่งมีฐานอยู่ในรัฐบอร์โน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นได้กลายเป็นกระแสทำตาม 



          วันที่ 14 เม.ย. 57 กลุ่มโบโกฮาราม บุกลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิง 276 คน จากโรงเรียนกินนอนสตรีระดับมัธยมศึกษาของชาวคริสต์ ในเมืองชิบ็อก รัฐบอร์โน ตัวประกันเสียชีวิตในที่ควบคุม 6 ราย บางส่วนสามารถหลบหนีในเวลาต่อมา และได้รับการปล่อยตัวกว่า 100 คน แต่ยังสูญหายจนถึงขณะนี้ 112 คน



 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X