นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค(CDC)ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ระบาดในสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว พบผู้ป่วย 2,463 คนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่(คือ 2,400 คน)ติดเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขส่วนใหญ่คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่าปัญหานี้อาจจะทำให้เกิดการระบาดระลอกที่ 4 ในสหรัฐฯ พร้อมแสดงความกังวลที่หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มเฉลี่ย 70,000 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 2,000 ราย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า เป็นตัวเลขที่สูงมาก
นางวาเลนสกี กล่าวว่าในปัจจุบัน เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ แอฟริกาใต้และบราซิลเริ่มระบาดไปทั่วประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ จะเป็นภัยคุกคามทั้งต่อชีวิตของประชาชน กระทบความคืบหน้าในการควบคุมโรค ซึ่งภาครัฐดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ระบุว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้รับการฉีดวัคซีน ตัวเลขของ CDC จนถึงวานนี้ ประชาชนกว่า 76 ล้านคนในสหรัฐฯเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนโดสที่ฉีด เทียบกับสัดส่วนของประชากรของประเทศ ปรากฎว่าสหรัฐฯรั้งอันดับที่ 4 รองจากอังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิสราเอล
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก(WHO) บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ มีผู้ป่วยสะสม 29,314,254 คน เสียชีวิต 527,226 ราย เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดอันดับที่หนึ่งของโลก
Cr: BBC