นายกฯ ย้ำฉีดวัคซีนแล้วยังต้องป้องกันตัวเอง-สั่งศึกษา 'วัคซีนพาสปอร์ต'

02 มีนาคม 2564, 12:30น.


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า ขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้กระจายไปยัง 13 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อและประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นไปตามแผน และหลังจากนี้ จะมีวัคซีนที่ไทยได้จองซื้อไปแล้ว ทยอยเข้ามาต่อเนื่องทุกเดือน จนครบ 63 ล้านโดส เพื่อกระจายไปทั่วประเทศและฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น  และยังเตรียมจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติมอีก โดยอาจจะเป็นวัคซีนตัวเดียวกับที่ได้มาก่อนหน้านี้ หรือเป็นวัคซีนของบริษัทใหม่ที่ผ่านการรับรองแล้ว โดยจะพิจารณาจากความเหมาะสมในทุกด้าน



          นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้รับรายงานว่าคนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว ยังสบายดี ไม่มีใครแพ้หรือมีผลข้างเคียง ซึ่งวัคซีนตัวนี้ได้รับคำแนะนำว่า อย่าเพิ่งฉีดให้คนที่มีอายุเกิน 60 ปี ไม่ใช่ว่าไม่ปลอดภัย แต่เพราะยังไม่มีผลการทดลองที่มากพอในกลุ่มคนที่มีอายุเกิน 60 ปี  พร้อมยืนยันว่า วัคซีนทุกตัวที่ได้รับการอนุมัติ จะได้รับการรับรองความปลอดภัยและรับรองว่ามีประสิทธิภาพ



           ในส่วนของนายกรัฐมนตรี ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าให้รอฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งสามารถฉีดได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ แต่วัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ไทยได้รับมาแล้ว 110,000 โดส ยังอยู่ในขั้นตอนการรอเอกสารจากผู้ผลิต คาดว่า อีกไม่นานจะเรียบร้อย ดังนั้นหากตอนนี้นายกรัฐมนตรีจะไปฉีดก่อนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะคนที่สั่งให้ฉีดและคนที่ฉีดให้จะมีความผิดตามกฎหมาย



          นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศไปศึกษาเรื่องการรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อการเดินทางระหว่างประเทศ หรือ วัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งในระดับนานาชาติยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ เพราะบางประเทศต้องการให้เกิดขึ้นเร็ว แต่บางประเทศต้องการรอดูอีกระยะว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อได้มากน้อยแค่ไหน แม้แต่ในประเทศไทยเองก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยากให้มีวัคซีนพาสปอร์ตเร็วๆ แต่ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ยังไม่มั่นใจ แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้ไปศึกษาและเตรียมพร้อมไว้แล้ว เพื่อให้ไทยสามารถเดินไปพร้อมกับนานาชาติได้



          ส่วนคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถใช้รับรองในการเดินทางไปต่างประเทศได้เช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังต้องไม่ละเลยที่จะป้องกันตัวเอง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ดูแลสุขภาพของตัวเองเสมอ



 

ข่าวทั้งหมด

X