คณะรัฐประหารเมียนมากำชับกองทัพห้ามใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วง

          คณะรัฐประหารของเมียนมา ประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ กำชับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ควบคุมสถานการณ์การประท้วงในเมียนมาไม่ให้ใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วง หลังการใช้กำลังสลายการประท้วงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บ 30 คน นับเป็นเหตุปะทะที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อีกทั้งเสียงทักท้วงเรื่อยมาจากประชาคมระหว่างประเทศ คณะรัฐประหารของเมียนมา ระบุว่า ที่ผ่านมามีผู้ประท้วงกว่า 1,300 คนถูกจับกุมระหว่างการประท้วงทั่วประเทศ

          หลายฝ่ายคาดว่า ในวันนี้จะมีประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงตามท้องถนนต่างๆทั่วประเทศเมียนมา หลังจากพนักงานอัยการในฐานะโจทก์ได้แจ้งข้อหากับนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา รวมเป็น 4 ข้อหาคือ นำเข้าเครื่องมือสื่อสาร (วอล์คกี้ทอล์คกี้) โดยผิดกฎหมาย,ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยการไปตระเวนปราศรัยก่อนการเลือกตั้ง 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว,การเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับสาธารณชนซึ่งเป็นกฎหมายเก่าในยุคที่เมียนมาอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ และข้อหาความผิดตามกฎหมายโทรคมนาคม ซึ่งอาจจะมีผลให้นางซูจีถูกควบคุมตัวระหว่างการสอบสวนยาวนานขึ้น

          ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้อาจจะเพิ่มแรงกดดันให้ประชาคมระหว่างประเทศคว่ำบาตรคณะรัฐประหารของเมียนมาให้หนักยิ่งขึ้น หลังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งทั่วไป 8 พฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งพรรค NLD ของนางซูจีชนะอย่างท่วมท้น

          ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 10 ประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนได้ประชุมอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ในวันนี้ โดยกลุ่มอาเซียนได้หารือเรื่องสถานการณ์ในเมียนมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารในเมียนมา เรียกร้องให้เมียนมาเลี่ยงการใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วง

          ที่ผ่านมา อาเซียนมีธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว คือการไม่เข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ของเพื่อนบ้าน รวมถึงเมียนมา กลุ่มอาเซียนจึงไม่ได้ออกแถลงการณ์ประณามเรื่องการใช้ความรุนแรงในการสลายการประท้วง หรือการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมา

Cr: Bloomberg, The Straits Times