ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันอังคารที่ 2 มีนาคม 2564

กต.ย้ำ รมว.กต.เมียนมา มาไทยเพื่อพูดคุยฉันท์เพื่อนบ้าน ไม่เกี่ยวกับการรับรองสถานะ

          นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีการเดินทางมาเยือนไทยของนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.64 ว่าเป็นการเดินทางมาเพื่อพูดคุยกันระหว่างเพื่อนบ้านในเรื่องที่มีความสำคัญสำหรับประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดนซึ่งเป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีพรมแดนติดกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับรองสถานะ

          การหารือร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ฝ่ายไทยเพียงรับทราบมุมมองของฝ่ายเมียนมาต่อสถานการณ์ในเมียนมาและได้สื่อสารความห่วงใยจากมิตรประเทศที่มีชายแดนติดกันและเป็นสมาชิกของครอบครัวอาเซียนเหมือนกัน และเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการทางการทูตระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพรมแดนทางบกร่วมกัน และเป็นโอกาสที่ฝ่ายไทยได้รับฟังเรื่องราวต่างๆจากฝ่ายเมียนมาโดยตรง ฝ่ายไทยพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เจรจาหารือกันโดยสันติวิธี

          นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า วันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จะประชุมพิเศษเพื่อหารือและรับฟังสถานการณ์ในเมียนมา

          นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย แถลงว่า อาเซียนต้องมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นเพื่อทำให้เมียนมากลับเข้าสู่ภาวะปกติ และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และทิ้งท้ายว่า มาเลเซียสนับสนุนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของอาเซียน

          เมื่อวานนี้ นางอองซาน ซูจี วัย 75 ปี ขึ้นศาลในกรุงเนปิดอว์ ผ่านระบบวิดีโอ และถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ ข้อหาตามมาตราในประมวลกฎหมายอาญาสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษที่ห้ามการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจสร้างความกลัวหรือตื่นตกใจ หรือทำลายความสงบสุขของประชาชน และข้อหาตามกฎหมายโทรคมนาคมที่กำหนดให้ต้องขึ้นทะเบียนอุปกรณ์สื่อสาร เดิมเธอถูกตั้งข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสาร 6 เครื่องโดยผิดกฎหมายและข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติด้วยการละเมิดระเบียบเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำหนดขึ้นศาลครั้งใหม่ในวันที่ 15 มี.ค.64

แฟ้มภาพ กระทรวงการต่างประเทศ 

รวบ 2 กลุ่มแรงงานเมียนมา เดินเท้าข้ามแดน-ติดต่อนายหน้า จะไปทำงานที่นครปฐม มหาชัย

          จับได้อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำโดย พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ จับกุมแรงงานชาวเมียนมา ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ตามชายป่าที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ด้านหลังจุดตรวจร่วมน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จำนวน 7 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 3 คน อายุระหว่าง 12-56 ปี  

          แรงงานทั้ง 7 คน รับสารภาพว่าลักลอบเดินเท้าข้ามชายแดนเข้ามาที่ฝั่งไทยทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปทำงานกับนายจ้างในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จากนั้นเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่ออ้อมจุดตรวจร่วมน้ำเกิ๊ก ระหว่างนั่งพักถูกเจ้าหน้าที่จับได้ หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวแรงงานทั้ง 7 คนเอาไว้ได้ จึงดำเนินการตรวจวัดอาการไข้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจพบแรงงานทั้ง 7 คน มีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



          ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะโฆษกประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันด่านตรวจเพื่อคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ข้ามจังหวัดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้ยกเลิกไปแล้วเนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยพบว่าผ่านมาแล้ว 38 วันไม่พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ แต่ด่านคัดกรองโควิด-19 ตามแนวชายแดนยังคงอยู่ต่อไป

          ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ช่องเขาหนีบ ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า ว่ามีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ห่างจากหลังจุดตรวจมั่นคงช่องเขาหนีบไปตามไหล่เขา ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า จำนวน 17 คน เป็นชาย 6 คน และหญิงจำนวน 11 คน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในสวนของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเอาไว้ โดยแรงงานทั้งหมดไม่มีพาสปอร์ต และไม่มีเอกสารยืนยันรับรองการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตม.ประเทศเมียนมาและจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจไม่พบอุณหภูมิในร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส

          จากการสอบถามกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเดินทางมาจากจังหวัดทวาย นัดหมายมาตรงจุดดังกล่าวเพื่อรอรถยนต์มารับไปทำงานในพื้นที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ส่วนปลายทางที่จะไปทำงานนั้น ทราบว่าแรงงานทั้ง 17 คน จะเดินทางไปทำงานที่ จ.นครปฐม จำนวน 9 คน ไปทำงานที่มหาชัย จำนวน 4 คน และไปทำงานที่ จ.สมุทรปราการอีก จำนวน 2 คน และได้จ่ายเงินให้นายหน้าชาวพม่า ชื่อมิน มิน เป็นจำนวนเงินคนละ 11,000 บาท

นายกฯ เผยกำลังคิดอยู่เรื่องสลับเก้าอี้ในกระทรวงต่างๆ

          การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ จะใช้ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง มีรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะถือโอกาสแจ้งในที่ประชุมอย่างเป็นทางการถึงการปรับ ครม.การปรับ ครม.ในครั้งนี้ นายกฯ ต้องการใช้เวลาน้อยที่สุด โดยจะต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนมี.ค.64 รายงานระบุว่า ไม่ได้พิจารณาปรับแค่ 3 เก้าอี้ที่ว่างลงแต่จะถือโอกาสปรับใหญ่ หลังจากที่ ครม.ชุดนี้ได้ทำงานมากว่า 1 ปี 

          นายกฯ ชี้แจงเรื่องการปรับครม.ว่าจะเป็นการปรับใหญ่ หรือปรับเฉพาะ 3 ตำแหน่งของรัฐมนตรีที่ว่างอยู่ ว่า เดี๋ยวดูอีกที ต้องดูว่าจะมีผลกระทบอะไรอย่างไร ทุกอย่าง ยังเป็นไปตามเดิม ขอร้องให้เลิกพูดกันได้แล้วเรื่องของสัดส่วน เรื่องนี้นายกฯ ดำเนินการเอง ส่วนการสลับเก้าอี้ในกระทรวงต่างๆ ยังคิดอยู่

‘หลงจู๊ สมชาย’ โดนอีกคดีฟอกเงิน ศาล ปล่อยตัวชั่วคราว สั่งติดกำไลอีเอ็ม 

          พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดูรายละเอียดคดีของนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊ สมชาย เจ้าของบ่อนพนันหลายแห่งในภาคตะวันออกว่าหลักฐานยังสามารถเอาผิด พ.ร.บ.ฐานฟอกเงินหรือไม่ คณะพนักงานสอบสวน ภ.จว.ระยอง พิจารณารวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งออกหมายเรียกนายสมชาย ผู้ต้องหาคดีบ่อนมาบตาพุด เข้าพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาความผิดกฎหมายร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน พนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งศาลจังหวัดระยองเพื่อนำตัวฝากขัง 

          นายสมชาย ได้ขอยื่นประกันตัว โดยศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 500,000 บาท ซึ่งต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการติดกำไลอีเอ็มเพื่อป้องกันการหลบหนี และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

          คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน บก.สส.ภ.2 ได้นำหมายศาลเข้าบุกจับตัว นายสมชาย เจ้าพ่อบ่อนการพนันรายใหญ่ภาคตะวันออก ภายในบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ซอยราษฎร์สามัคคี (นครระยอง 22) ต.เนินพระ อ.เมือง แต่นายสมชาย ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคดีบ่อนพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก ล่าสุดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมชาย ส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดระยอง แต่ปรากฏว่าท้ายที่สุด ศาลได้อนุญาตให้เจ้าพ่อบ่อนการพนันรายใหญ่ภาคตะวันออก ได้รับการประกันตัวเป็นการชั่วคราวด้วยวงเงินประกันจำนวน 200,000 บาท