ผลวิจัยอังกฤษ พบวัคซีนจากไฟเซอร์และแอสตราฯ ลดการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้สูงอายุกว่า80%

            ดร.แมรี แรมเซย์(Mary Ramsay) หัวหน้าแผนกฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ(PHE)เปิดเผยว่า ผลการศึกษาโดย PHE ทำการศึกษากลุ่มผู้มีอายุ 70 ปีที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 7,500,000 ล้านคน ซึ่งป่วยด้วยโรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้วถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ปีนี้ ทีมวิจัยพบว่า การฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด หรือวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยรุนแรงจนถึงขั้นต้องเข้านอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลลงกว่าร้อยละ 80

          โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย 3-4 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีนเข็มแรก แสดงให้เห็นว่าวัคซีนใช้ได้ผลจริง มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันประชาชนไม่ให้เจ็บป่วยรุนแรง ลดตัวเลขคนไข้ที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและลดการเสียชีวิต

          ด้านนายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขและนายโจนาธาน ฟาน-ทัม หัวหน้าคณะแพทย์ของอังกฤษชื่นชมผลเชิงบวกของวัคซีน ระบุว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในอังกฤษลดลงในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าวัคซีนจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่พวกเขาแนะนำประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ป้องกันโรคโควิด-19 ได้อย่างเต็มที่

          ในปัจจุบัน อังกฤษมีผู้ป่วยสะสม 4,182,009 คน เสียชีวิต122,953 ราย

Cr: BBC