ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564

01 มีนาคม 2564, 09:00น.


เอกชน เสนอนายกฯ เคาะ เอสเอ็มอี คนละครึ่ง



          นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า วันที่ 8 มี.ค. 64 จะมีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สสว.เตรียมเสนอวาระสำคัญคือ โครงการคนละครึ่งภาคเอสเอ็มอี เพื่อลดรายจ่ายให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ช่วยเหลือผ่านระบบผู้ให้บริการทางธุรกิจ หรือบีดีเอส เช่น ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ และหน่วยงานฝึกอบรม โดย สสว.จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับเอสเอ็มอีครึ่งหนึ่ง ล่าสุดมีหน่วยงานบีดีเอส เข้าร่วมกับ สสว.แล้วกว่า 100 ราย คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง



          ตอนนี้ สสว.กำลังรอรายละเอียดในการสนับสนุน ระดับราคา และมาตรฐานของหน่วยงานบีดีเอส ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เอสเอ็มอีที่เข้าใช้บริการได้รับประโยชน์เต็มที่ ตรงกับความต้องการ วงเงินสนับสนุนเบื้องต้น จะมาจากเงินอุดหนุนของ สสว. ประมาณ 80 ล้านบาท หากมาตรการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบ จากการหารือภาครัฐจะสนับสนุนวงเงินเพิ่มด้วย โครงการนี้ สสว.จะทำเป็นมาตรการถาวร ส่งเสริมทุกปี แต่รายละเอียดการส่งเสริมจะเปลี่ยนไปตามเป้าหมายของรัฐบาล อาจเน้นกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย หรือกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการช่วยเหลือในช่วงเวลานั้นๆ



          นายวีระพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ สสว.จะเร่งผลักดันให้เอสเอ็มอี เข้ามาลงทะเบียนกับ สสว. เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องซื้อสินค้าและบริการจากเอสเอ็มอี ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 รวมทั้งเปิดช่องให้เอสเอ็มอีที่เสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดร้อยละ 10 สามารถเป็นผู้ชนะการแข่งขันได้ ขณะนี้มีผู้เข้ามาสมัครเพียง 5,000-6,000 ราย จากเอสเอ็มอีทั่วประเทศประมาณ 3,000,000 ราย โดย สสว.มีเป้าหมายภายในเดือนมี.ค.64 จะเพิ่มเป็น 10,000 ราย และสิ้นปีงบประมาณ 64 จะเพิ่มเป็น 100,000 ราย



รมว.คลัง อาจขยายเวลาลงทะเบียน เราชนะ กลุ่มไม่มีสมารท์โฟน



          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ลงพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของจุดบริการ One Stop Service โครงการเราชนะ พบปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนว่าได้ใช้สมาร์ทโฟนของลูกหลานลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิไว้ก่อน วิธีนี้จะทำให้มีปัญหาการยืนยันตัวตนและไม่สะดวกในการใช้จ่าย เนื่องจาก โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเจ้าของสิทธิ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความสะดวก หากประชาชนที่ได้ลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์ลูกหลานและได้รับสิทธิแล้ว ยังไม่ได้ยืนยันสิทธิ ให้ดำเนินการกดยกเลิกสิทธิในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังหรือหากไม่สะดวกก็ให้นำบัตรประชาชนไปให้เจ้าหน้าที่ที่One Stop Service โครงการเราชนะที่ที่ว่าการอำเภอดำเนินการให้ เมื่อแก้ไขแล้วก็สามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนต่อไป ส่วนประชาชนที่ยังไม่ลงทะเบียนก็สามารถใช้บริการ One Stop Serviceโครงการเราชนะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำทุกขั้นตอน



          รมว.คลัง ขอบคุณกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ออมสิน และเจ้าหน้าที่ทุกๆ คน ที่ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนให้โครงการนี้ได้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด พร้อมระบุว่า จะพิจารณาข้อมูลอีกครั้งหากยังเหลือผู้ตกหล่นจากการลงทะเบียนอีกมากก็อาจจะพิจารณาขยายระยะเวลาการลงทะเบียนออกไปจากเดิมภายในวันที่ 5 มี.ค. 64



แอบเผาป่า จ.เชียงใหม่ เริ่มจับวันนี้ คุกไม่เกิน 3เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท



           สถานการณ์ไฟป่าที่จ.เชียงใหม่ มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันดับไฟป่า ในพื้นที่สูงชัน ยากเข้าถึง หลังจากตรวจสอบพบว่าเจอจุดความร้อน 129 จุด มากเป็นอันดับ 7 ของภาคเหนือ ทำฝุ่นควันสะสมทึบคลุมเมือง



          จุดความร้อนในจังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 64 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 62 จุด เขต ส.ป.ก. และพื้นที่ชุมชนอีก 3 จุด กระจายอยู่ในพื้นที่ 16 อำเภอ โดยพบในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการเชื้อเพลิงมากถึง 101 จุด



          อำเภอสันทราย  พบไฟไหม้ 14 จุด ในพื้นที่ ต. แม่แฝก ล่าสุด ขยายพื้นที่เป็น 19 จุด เป็นพื้นที่ที่มีจุดความร้อนมากที่สุด เนื่องจาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง เจ้าหน้าที่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บินโปรยน้ำดับไฟในพื้นที่เขาสูงชันอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปการดับไฟของเจ้าหน้าที่ดับไฟภาคพื้นดิน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ สั่งการให้ทุกอำเภอที่ตรวจพบจุดความร้อนนอกแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง



          ขณะเดียวกัน ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุการเกิดจุดความร้อน พร้อมสอบปากคำเจ้าของพื้นที่หรือผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นได้อย่างไร เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการลักลอบเผาอีก โดยหลังจากนี้จะนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างจริงจัง ตามประกาศเชียงใหม่ที่มีคำสั่งห้ามเผาทุกพื้นที่โดยเด็ดขาด 60 วัน ยกเว้นพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตบริหารจัดการเชื้อเพลิงจากทางจังหวัดที่จะเริ่มวันวันนี้1 มี.ค. 64 เป็นวันแรก หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท



          มีการเผยภาพไฟไหม้ป่าในพื้นที่ อ.แม่ออน สาเหตุคาดว่ามีคนเข้าลักลอบเข้าไปเผาป่าเพื่อหาเห็ดเผาะและเก็บผักหวาน



แฟ้มภาพ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร



‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ ฟ้องกลับ ป.ป.ท. สั่งให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม

          หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิดและส่งเรื่องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดำเนินการให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติฯ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ออกจากราชการ เนื่องจาก นายชัยวัฒน์ และพวกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติรวม 6 คน ได้เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่นๆของนายโคอิ หรือปู่คออี้ มีมิ พ่อเฒ่าชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน และของชาวบ้านอีกหลายราย โดยที่ประชุมมีมติชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และมีมติให้ออกจากราชการ



          นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า  การตัดสินครั้งนี้ ป.ป.ท.อ่านดูแค่หนังสือเอกสารจากกลุ่มชาติพันธุ์แล้วด่วนสรุปตัดสิน จึงเสมือนไม่ให้ความเป็นธรรมต่อตน เรื่องนี้คงต้องปกป้องศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง แต่เพื่อข้าราชการทุกคนที่ทำงานด้วยความเหนื่อยยากในการปกป้องผืนป่าทรัพยากรธรรมชาติของประเทศและของชาวไทยทุกคน ซึ่งในวันนี้ จะเดินทางไปที่ป.ป.ท.จังหวัดนครปฐม เพื่อสอบถาม ป.ป.ท.ในรายละเอียดกรณีที่มีการลงมติให้ตนออกจากราชการ รวมทั้งจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับบอร์ด ป.ป.ท.ในความผิดมาตรา 157 เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีไม่มีเจ้าหน้าที่ลงไปในพื้นที่ ที่มีความผิดจริง แต่มีการชี้มูลความผิด



          ขณะที่ วันนี้เวลา 09.00 น. กลุ่มเครือข่าย#Save ป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย สมาคมอุทยานแห่งชาติ, คนเพชรบุรีรักษ์ผืนแก่งกระจาน, กลุ่มพิทักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ร่วมกันทำหนังสือ คุ้มครองผืนป่าแก่งกระจาน ผืนป่าของโลก จะรวมตัวกันกว่า 100 คน เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือ #Save ป่าแก่งกระจานให้ดำเนินการตามกฎหมาย ปกป้องเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และให้ชาวกะหร่างที่เข้าไปอยู่บริเวณที่มีการบุกรุก /ล่าสัตว์ป่า ต้องออกมาจากป่าในพื้นที่ดังกล่าวทันที



 

ข่าวทั้งหมด

X