สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ในวันนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับจังหวัดกลุ่มเสี่ยงสูง นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า วัคซีนทุกขวดที่ถูกฉีดนั้นจะมีซีเรียลนัมเบอร์อยู่ ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ว่าหมายเลขใดได้ฉีดให้ใคร และจากนั้นทุกขวดที่ฉีดไปแล้ว จะถูกเก็บไว้ในตู้เย็นของสถานพยาบาลเป็นเวลา 30 วัน เพื่อติดตามสถานการณ์ หากพบปัญหาจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สรุปข้อมูลเมื่อช่วง 12.00 น. สถาบันบำราศนราดูร ฉีดวัคซีนแล้ว 95 คน ที่จังหวัดสมุทรสาครฉีดไป 159 คน ทั้งหมดยังไม่พบรายใดที่มีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด ล่าสุดวันนี้ได้กระจายวัคซีนไปยังจังหวัดเป้าหมาย อีก 79,240 โดส โดยมีการกระจายวัคซีนไปแล้ว 2 วัน จำนวน 110,000 โดส และเดือนเม.ย. พรุ่งนี้จะมีส่งต่ออีก 800,000 โดส ที่จะเร่งกระจายและฉีดให้ครอบคลุมต่อไป
ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์เด็ก (โรคติดเชื้อ) รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวว่า วันนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 236 ล้านโดส ซึ่งการที่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนวันนี้ไม่ถือว่าเร็วหรือช้าเกินไป แต่การที่เราฉีดในวันนี้มีข้อดีคือเราได้เห็นผลดีผลเสียจากประเทศที่มีการฉีดไปแล้ว ซึ่งวัคซีนที่ฉีดในไทย 2 ชนิด คือซิโนแวค และแอสตราเซเนกา นั้นถือว่ามีความปลอดภัยมาก ไม่ปรากฏผลข้างเคียงรุนแรง มีอะไรมีเพียงการเจ็บบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว บางคนอาจจะมีอาการเป็นไข้ คลื่นไส้อาเจียนด้วยนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม นอกจากการติดตามอาการของผู้รับวัคซีนผ่านระบบที่วางไว้แล้วนั้น ขณะนี้ได้มีการเกาะติดสถานการณ์ในรพ.อย่างใกล้ชิด ว่ามีโรคหรือภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผลต่อไป