ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯออกมาเรียกร้องให้วุฒิสภาเร่งอนุมัติร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในวันเสาร์ (27 ก.พ.) ปธน.ไบเดนระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลงมือทำ หากเราเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว และกล้าหาญ เราก็จะขึ้นมานำไวรัสตัวนี้ได้และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง หลังชาวอเมริกันต้องทนกับความทุกข์มานาน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีชื่อว่า “American Rescue Plan” ในวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า ครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, เพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์, เพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์และให้ขยายโครงการช่วยเหลือไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.
ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวสามารถผ่านสภาคองเกรสโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน เพราะขณะนี้พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
ส่วนในวุฒิสภานั้น พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีคะแนนเสียงเท่ากัน 50-50 เสียง ดังนั้น การที่วุฒิสภาจะให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องอาศัยคะแนนเสียงชี้ขาด 1 เสียงจากนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะลงคะแนนเสียงในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขว่า วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตจะต้องไม่แตกแถวด้วย