ยังทำซ้ำ!เปิดประวัติโจรชิงทองย่านรัตนาธิเบศร์ เคยก่อเหตุปล้นรถขนเงินปี 2558

26 กุมภาพันธ์ 2564, 18:15น.


          หลังตำรวจจับ 2 คนร้ายชุดดำบุกปล้นร้านทอง เยาวราชกรุงเทพ สาขาห้างบิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรีได้แล้ว  1 ในนั้น คือ นายคันศร วสุหิรัญ อายุ 39 ปี ที่ให้การรับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ที่ห้างบิ๊กซี สาขารัตนาธิเบศร์จริง โดยทำหน้าที่คุมเชิงและเก็บทอง ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ส่วนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีกคนคือนาย ทวีวงศ์ หอมเนียม หลังก่อเหตุได้แยกหลบหนีไปพร้อมทองรูปพรรณ ซึ่งยังไม่ได้แบ่งให้กันโดยวันนี้นายทวีวงศ์ จะเข้ามาหาเพื่อจะมาแบ่งทอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดักซุ่มอยู่ในพื้นที่โดยรอบ เวลา 14.00 น.นายทวีวงศ์ ได้ขับขี่รถ จยย.ยามาฮ่า เอ๊กแม็กซ์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจค้นใต้เบาะรถ จยย.พบทองรูปพรรณ อาวุธปืน 2 กระบอก ก่อนนำตัวทั้ง 2 คน กลับมาสอบสวนที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี โดยมี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เป็นคนสอบสวนทราบว่า นายทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นคนร้ายที่ปีนเคาน์เตอร์เข้าไปกวาดทองรูปพรรณในตู้โชว์ตามภาพที่ปรากฎอยู่คลิปนั้น อยู่ในช่วงตกงานจึงได้ไปชักชวน นายคันศร ที่รู้จักกันซึ่งติดหนี้ค่ายาเสพติดประมาณ 2 หมื่นบาท ให้ขี่รถจักรยานยนต์ มาดูลาดเลาที่ร้านทองดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 ก.พ.



          จากนั้น นายคันศร ทีแรกจะไม่เอาด้วย แต่นายทวีวงศ์ บอกว่า ถ้าลงมือจะได้มีเงินไปใช้หนี้ค่ายาเสพติดที่ค้างไว้ และถ้ามีคนเยอะก็จะยังไม่ลงมือ จนเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันก่อเหตุ นายทวีวงศ์ ได้จัดหาชุด เสื้อคลุม หมวกกันน็อก มาให้ นายคันศร และบอกว่าจะไปดูลาดเลาอีกครั้งโดยให้นายคันศร เป็นคนขี่รถจักยานยนต์ เมื่อไปถึงที่ลานจอดรถในห้างแล้ว นายทวีวงศ์ได้ให้ นายคันศร วิ่งตามเข้ามา จากนั้นนายทวีวงศ์ ใช้อาวุธปืนขู่พนักงานร้านทองและปีนเข้าไปปลดทองรูปพรรณในตู้โชว์ส่งให้นายคันศรเก็บใส่กระเป๋าที่สะพายมาก่อนหลบหนี



          จากการสอบสวนประวัติของนายทวีวงศ์ พบว่า เคยมีประวัติพัวพันคดีปล้นรถขนเงินในพื้นที่ สน.ปทุมวัน เมื่อปี 58 ก่อนที่ศาลจะยกฟ้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวสองผู้ต้องหาเดินทางไปตรวจค้นที่พักย่านพระราม 3 อีกครั้ง หลังตรวจสอบของกลางคือทองรูปพรรณที่ถูกคนร้ายชิงไป ยังหายไปอีกประมาณ 70 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง       



 



อ่านข่าวย้อนหลัง https://www.js100.com/en/site/news/view/15226



 

ข่าวทั้งหมด

X