ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564

26 กุมภาพันธ์ 2564, 08:56น.



ผลตรวจวัคซีนซิโนแวค คืบหน้า ทันตามกำหนด 3วัน



          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าการตรวจรับรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ขณะนี้การตรวจสอบวัคซีนของซิโนแวค คืบหน้าไปมาก ทั้งหลักเกณฑ์ทางกายภาพและเคมี เหลืออีกไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น คาดว่า จะทันตามกำหนด 3 วัน



          ส่วนการตรวจสอบวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ยังไม่ดำเนินการ เนื่องจาก ทางบริษัท หรือกรมควบคุมโรค ที่ดูแลเรื่องนี้ ยังไม่ได้นำตัวอย่างวัคซีนมาให้ตรวจสอบ



          ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกา ในการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตไม่จำเป็นต้องมีการตรวจแค่ทางห้องปฏิบัติการเพียงอย่างเดียว สามารถตรวจสอบทางเอกสารหลักฐานได้ เนื่องจาก การผลิตวัคซีนบางชนิด ผ่านการรับรองจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง



การให้วัคซีนระยะแรก รพ.ติดต่อเรียกกลุ่มเป้าหมายเข้าฉีด




          นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 จากซิโนแวคล็อตแรกจำนวน 200,000 โดสว่า ในระดับจังหวัดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นคนจัดสรรและเห็นชอบว่ากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไปนั้น ควรเริ่มที่กลุ่มใดก่อน เพราะจะมีข้อมูลในระดับพื้นที่ที่รู้ว่าพื้นที่ใดมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ช่วงแรกนี้ โรงพยาบาลจะติดต่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน แต่ช่วงหลังจึงจะบริหารจัดการผ่านไลน์หมอพร้อม หากตอนนี้กดไลน์หมอพร้อมอาจจะขึ้นว่าท่านยังไม่ได้อยู่ในกลุ่มได้รับวัคซีน แต่ใน1-2 วันจะมีการแสดงรายชื่อกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนในส่วนของคนที่อยู่ในจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรช่วงแรกนี้ 18 จังหวัด



          กรณีถ้าพบว่าตัวเองจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับวัคซีน แต่ไม่มีรายชื่อให้ติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน ที่เคยรักษาพยาบาลและขอลงทะเบียนเพิ่มเติม ขอนัดหมายวัน เวลาการฉีด และไปตามนัดและขอให้ตอบไลน์หมอพร้อมในการติดตามผลข้างเคียงหลังการฉีดด้วย และไลน์หมอพร้อม จะส่งข้อความเตือนเมื่อถึงวันนัดฉีดเข็มที่ 2 ด้วย ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถโทรศัพท์สอบถามโรงพยาบาลใกล้บ้านได้ 



          ส่วนวัคซีนของแอสตราเซเนกา กำหนดให้ฉีดในผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปเป็นหลัก โดยการฉีดในสถานพยาบาล จะออกแบบให้มีการฉีดคนละวันกับวัคซีนของซิโนแวค โดยคนที่รับวัคซีนแอสตราเซเนกา ฉีดวันเสาร์-อาทิตย์ และของซิโนแวค ฉีดวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อไม่ให้การมาฉีดวัคซีนสับสน เพราะกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม



          แผนการรับวัคซีนในระยะต่อไปหลังเดือนพ.ค.-มิ.ย. 64 ที่จะมีการทยอยฉีดวัคซีนในคนไทยกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นอีกราว 61,000,000 โดส ระบบไลน์หมอพร้อมจะมีความสมบูรณ์มากขึ้น ประชาชนสามารถเข้าไปลงทะเบียนเลือกวัน เวลา สถานที่ที่จะฉีดวัคซีนได้ รวมถึง การรายงานผลข้างเคียง และการแจ้งเตือนการรับวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วย ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะใช้กลไกของอาสาสมัคร( อสม.) ในการแจ้งข่าวสารต่างๆไปยังคนในพื้นที่



อสม.กำลังหลักช่วยติดตามผลการฉีดวัคซีน



          นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ปกติ อสม. จะมีเขตรับผิดชอบอยู่ 15-20 หลังคาเรือน ในส่วนของภารกิจวัคซีนจึงมอบหมาย อสม. ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องวัคซีน สำรวจกลุ่มเสี่ยงที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ในการรับวัคซีนตามเขตรับผิดชอบตนเอง แล้วประสานข้อมูลกับ รพ.สต. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยในระยะที่ 1 คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติกำหนดจังหวัดเป้าหมาย 13 จังหวัด ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดย อสม. จะช่วยในการลงทะเบียนไลน์หมอพร้อมและช่วยติดตามผลข้างเคียงหลังรับวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่รับวัคซีนแต่ไม่มีสมาร์ทโฟนพบว่า จ.นนทบุรี พบประชาชนกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 10-20 ไม่มีสมาร์ทโฟน




          สำหรับกลุ่ม อสม. เองเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด่านหน้า จากการสำรวจพบร้อยละ70 ต้องการฉีดวัคซีนเช่นกัน แต่ให้กรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณา



‘อนุทิน’ ดำเนินคดี คนที่เรียกรับเงินค่าวัคซีน

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ. เป็นประธานเปิดการประชุม "คิกออฟ อสม.พร้อมบอกต่อเรื่องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19" ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอทางไกล โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 317,600 โดส แบ่งเป็นวัคซีนจากซิโนแวค 200,000 โดส และแอสตราเซเนกา 117,600 โดส ทั้งหมดนี้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการจัดหา และฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายฟรี ดังนั้นหากมีใครแอบอ้าง ว่าต้องจ่ายค่าฉีดวัคซีนต้องดำเนินการทางคดีให้เด็ดขาด



เร่งสอบ ‘เก่ง’ คนจัดงานปาร์ตี้ หาสาเหตุการเสียชีวิตของ ‘วาวา’ พริตตี้สาว



          การติดตามสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ วาวา พีอาร์สาว จากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ภายหลังรับงานเอ็นเตอร์เทนที่บ้านจัดงานปาร์ตี้แถวพหลโยธิน ที่ระบุว่า เป็นบ้านของนายเก่ง



          พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การสืบสวนต้องประสานไปยังโรงพยาบาลที่ผ่าชันสูตรพลิกศพ เพราะการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ซึ่งต้องรอผลจากการชันสูตรก่อน และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวนายเก่ง เจ้าของปาร์ตี้ และ น.ส.สุ ผู้จัดหาพริตตี้ PR รวมถึงเพื่อนพริตตี้อีก 3 คนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในงานมาให้ปากคำด้วย โดยย้ำว่าตอนนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่เป็นคดีเพราะต้องดูผลการชันสูตรว่าการเสียชีวิตผิดธรรมชาติเกิดจากสาเหตุใด แนวทางการสืบสวนจะคล้ายกับคดีการเสียชีวิตของน.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลัลลาเบล



          พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำ เอเจนซี่โมเดลลิ่งหรือผู้ที่มีการจัดส่งพีอาร์กลุ่มดังกล่าวไปงานเลี้ยง รวมทั้งพีอาร์อีกหนึ่งคนที่อยู่ในงาน ทั้งหมดให้ความร่วมมือและได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจนเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมข้อมูลที่จะนำไปสู่พยานหลักฐานส่วนอื่นได้ หลังจากนี้จะมีการเรียกพยานบุคคลรายอื่นเพิ่มเติม ประกอบด้วย พีอาร์ที่ร่วมงานและคนอื่นๆ ที่อยู่ในงาน ซึ่งบางส่วนให้การตอบรับและเตรียมพร้อมจะเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนผลการชันสูตรของนิติเวช ขณะนี้สามารถบอกได้เพียงว่าพบยาเสพติดในตัวผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ขอระบุประเภทของยาเสพติด ขอให้รอผลอย่างเป็นทางการ และจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ



          ภาพจากกล้องวงจรปิด และโรงพยาบาลเปาโลเกษตร ประสานข้อมูลไปที่ครอบครัวของน.ส.วิชญาพร หลังเสียชีวิตว่า มีผู้ชายสองคนขับรถมาส่งผู้เสียชีวิตในขณะนั้นหมดสติและมาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท โดยระบุว่า เสพยามาจนไม่ได้สติ



ตามจับ 2 คนร้ายเมืองนนท์ บุกชิงทองในห้าง กวาดไป 260 บาท



          การตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสติดตามจับกุม 2 คนร้ายใช้อาวุธปืน บุกชิงทองร้านทอง เยาวราชกรุงเทพ ชั้น 1 ของห้างบิ๊กซี สาขารัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ช่วงสายวานนี้ กวาดทองรูปพรรณในถาดทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอทองคำ น้ำหนักรวม 260 บาท มูลค่า 6,500,000 บาท เงินสดในลิ้นชัก 80,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,580,000 บาท ใช้เวลาก่อเหตุ3-4 นาที  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังแกะรอย โดยกระจายกำลังลงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี



          พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี (ผบก.ภ.จว.นนทบุรี) พร้อมชุดสืบสวนปราบปราบ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมดูกล้องวงจรปิดจากทางร้าน คนร้ายชายสองคน ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ โดย 1 ใน 2 คนกระโดดข้ามตู้โชว์ทอง เข้าไปกวาดทองรูปพรรณในถาดจากนั้น หลบหนีออกจากร้านขึ้นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่น เอ็นแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน เห็นแต่ทะเบียนท้ายเลข 75 หลบหนีไปทางแยกพระนั่งเกล้า



          นายอนิวัฒน์ ภูหัวตลาด อายุ 32 ปี คนขายทอง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพนักงานสาวอีก 3 คนกำลังรอขายทองอยู่ในเคาน์เตอร์ มีคนร้ายสองคนเดินเข้ามา ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก คนร้ายได้เดินเข้ามาที่ร้านแล้วสั่งให้ตนหมอบลง จากนั้นพนักงานทุกคนก็ทำตาม พฤติกรรมคนร้าย 1 คนได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์มากระชากสร้อยทองบนผนังตู้ และในตู้โชว์ ส่วนอีก 1 คนได้ยืนถือปืนคุมเชิงอยู่ข้างนอก ก่อนจะมาช่วยกวาดทองใส่กระเป๋าเป้ที่เตรียมมาแล้ววิ่งหนีออกไปจากร้าน



          ด้านแม่ค้าร้านขายนาฬิกาตรงข้ามร้านทอง เล่าว่า คนร้ายวิ่งเข้ามาและส่งเสียงว่าหลบ พนักงานก็ตกใจคิดว่าถ่ายละคร ตนก็เลยแอบดูอยู่ห่างๆ เห็นแต่ข้างหลัง ตอนที่คนร้ายมาก่อเหตุตอนนั้นคนเงียบมากเพราะห้างสาขานี้ไม่ค่อยมีคน ตนเห็นเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรกรู้สึกกลัวและตกใจมาก

 



 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X