สหภาพยุโรปพิจารณาข้อเรียกร้องให้ใช้ 'หนังสือเดินทางวัคซีน'

          กรีซและออสเตรียเสนอต่อที่ประชุมทางไกลของผู้นำประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปหรืออียูให้มีการใช้ "หนังสือเดินทางวัคซีน" เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของยุโรป ด้วยการอนุญาตให้ผู้ที่มีหนังสือรับรองว่าฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วสามารถเดินทางภายพื้นที่สหภาพยุโรปได้โดยอิสระ

          แต่แนวคิดนี้ถูกคัดค้านจากฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่มีความเห็นว่าวัคซีนของแต่ละบริษัทมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน และการรวบรวมข้อมูลในการป้องกันบุคคลจากการติดเชื้อและการส่งต่อไวรัสยังไม่สมบูรณ์ ทั้งยังมีความกังวลว่าอาจเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้แต่ห้ามผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่จะอยู่ในลำดับสุดท้ายของโครงการวัคซีน

          นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ที่ติดต่อได้ง่ายขึ้น

          ขณะที่กรีซ และอิสราเอลมีการออกบัตรรับรองการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลแล้ว แต่อีกหลายประเทศยังไม่มีการออกบัตรในลักษณะนี้

          นายอากิส สเกอร์ซอส รองนายกรัฐมนตรีกรีซ ชี้แจงว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่กรีซได้ เพียงแต่ต้องได้รับการทดสอบและแยกกักตนเองตามระยะเวลาที่กำหนดไว้เมื่อเดินทางมาถึง

นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คูร์ซ ของออสเตรียทวีตข้อความว่าข้อเสนอเรื่องหนังสือเดินทางวัคซีนมีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นที่ยาวนานและให้อิสระในการเดินทางอีกครั้งภายในสหภาพยุโรป

          ในระหว่างการประชุมทางไกลของผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ยังมีการหารือเกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับไม่ถึงร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวในที่ประชุมว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ไม่มีประสิทธิภาพต่อผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี

....