สำนักข่าวเกียวโด นิวส์ และหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการระงับเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาสำหรับเมียนมา ภายใต้โครงการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance) หลังบรรดาพันธมิตรชาติตะวันตกเช่น สหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)คว่ำบาตรคณะรัฐประหารของเมียนมา หลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พร้อมขู่จะคว่ำบาตรเมียนมาเพิ่มเติมอีก เพื่อกดดันให้คณะรัฐประหารของเมียนมาคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็ว พร้อมทั้งปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย พร้อมแกนนำพรรคอีกหลายคนที่ถูกจับ
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่อยากให้ทุกฝ่ายมองการระงับการช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาว่าเป็นมาตรการลงโทษคณะรัฐประหารเมียนมา โดยญี่ปุ่นจะพยายามโน้มน้าวให้คณะรัฐประหารของเมียนมา หาทางเจรจากับบรรดาผู้นำพรรคการเมืองของเมียนมาเพื่อหาทางคลี่คลายปัญหาวิกฤตทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
ด้านนายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในฐานะโฆษกรัฐบาล กล่าวว่าเรื่องการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมา ญี่ปุ่นจะติดตามสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน ปราศจากอคติ พร้อมทั้งจะพิจารณาทางเลือกต่างๆด้วย
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือรายใหญ่สำหรับเมียนมา อีกทั้ง บริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้เข้าไปตั้งโรงงานในเมียนมาในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจึงเลี่ยงใช้มาตรการรุนแรงต่อคณะรัฐประหารของเมียนมา แม้ว่าการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์จะทำให้ประชาคมระหว่างประเทศ นำโดยสหรัฐฯ คว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเมียนมา โดยญี่ปุ่นมองเมียนมาว่าเป็นตลาดชายขอบแห่งสุดท้ายของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีค่าแรงต่ำ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นหวั่นเกรงว่าการแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อเมียนมาจะยิ่งผลักดันเมียนมาให้มีความใกล้ชิดกับประเทศจีน คู่ปรปักษ์ของญี่ปุ่น มากขึ้น
Cr: Reuters, Kyodo News,Nikkei Asia