หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 มีมติเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กับบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล หรือ NBM เพื่อเดินหน้าร่วมลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี วันนี้ (23 ก.พ.64) จึงมีพิธีลงนามร่วมกันระหว่างสองหน่วยงาน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นสักขีพยาน
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.เปิดเผยว่า การลงนามแก้ไขสัญญาร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งเป็นสายหลัก โดย รฟม.ได้ศึกษารายละเอียดความเหมาะสมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี พบว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้ด้วย โดยเอกชนผู้รับสัมปทาน คือ บริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและอื่นๆ ทั้งหมด
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้งสายหลักและส่วนต่อขยาย เป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลไร้คนขับสายแรกของประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมสร้างเศรษฐกิจ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยในโครงการส่วนต่อขยาย สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ภาครัฐไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ และคาดว่าจะสามารถคิดค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 42 บาท
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี มีจุดเริ่มต้นบนถนนแจ้งวัฒนะ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูสายหลัก ที่สถานีศรีรัช และไปสิ้นสุดโครงการที่บริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี รวมระยะทาง 3 กิโลเมตร จำนวน 2 สถานี วงเงินลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยผู้รับสัมปทานจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งค่าจัดการกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย ส่วนภาครัฐจะได้รับสิทธิประโยชน์และผลตอบแทนดีกว่าเงื่อนไขเดิม คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 37 เดือน แล้วเสร็จพร้อมให้บริการในปี 2567
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งเป็นสายหลัก คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565