พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยวัคซีนของบริษัทซิโนแวค จำนวน 2 แสนโดส จะมาถึงไทยในวันที่ 24 ก.พ.นี้ จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนได้ภายใน 3 วัน โดยคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน โดยมีการกำหนดปลุ่มเป้าหมายและวางแผนบริหารจัดการไว้แล้ว ซึ่ง ศบค.จะชี้แจงรายละเอียดต่อไป
ส่วนวัคซีนล็อตที่สอง จำนวน 8 แสนโดส และล็อตที่สาม จำนวน 1 ล้านโดส จะตามมาในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ ส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับฉีดเข็มที่สองให้ผู้ที่ได้รับโดสแรกไปแล้ว
จากนั้นในเดือนพฤษภาคม–มิถุนายน ไทยจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 2 ล้านโดส และจะตามมาอีก 35 ล้านโดส โดยวัคซีนของแอสตราเซเนกา ผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ยังมีวัคซีนของจอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน ที่ส่งเอกสารบางส่วนแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน ของบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ ที่ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารมา
ซึ่งจะเห็นว่าไทยเปิดรับวัคซีนจากทุกบริษัท ไม่ปิดกั้น ที่ผ่านมามีการประสานงานกันมาโดยตลอด บางส่วนอยู่ในขั้นตอนการขอเอกสาร บางส่วนอยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมกับยินดีที่ภาคเอกชนมีแนวคิดช่วยจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ผู้ที่ต้องการ แต่ผู้ผลิตวัคซีนหรือผู้นำเข้า จะต้องขอจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อน เพราะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก ซึ่ง อย.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก มาช่วยในการตรวจสอบเพื่อความรวดเร็วในการขึ้นทะเบียน และรัฐบาลพร้อมกับทีมสาธารณสุข ตั้งใจจัดระบบอย่างดี มีแผนงานตามขั้นตอนที่รัดกุม รอบคอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้การฉีดวัคซีนได้ผลป้องกันการระบาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือ การป้องกันตัวเอง จึงขอให้ทุกคนยังสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม เรื่องนี้จะช่วยให้ปลอดภัยจากโควิดได้ดีที่สุด #รวมไทยสร้างชาติ