'อนุทิน' ย้ำผ่อนคลายมาตรการแล้ว ยังต้องรักษามาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดใหญ่ว่าแม้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่มีมติให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงได้แล้ว แต่ก็ยังต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนว่ายังต้องรักษาสุขอนามัยและมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเมื่อแอลกอฮอล์เข้าปาก หน้ากากอนามัยก็จะหลุด ดังนั้นต้องเพิ่มความระมัดระวัง ส่วนสถานอาบอบนวด ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ว่า หากมีวัคซีนมาฉีดแล้วและเกิดความร่วมมือจากประชาชนอย่างดี ก็จะค่อยๆผ่อนคลาย โดยคาดว่าจะนำเข้าประชุมในครั้งหน้า

          ส่วนความจำเป็นของการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก  1 เดือน นายอนุทิน ระบุว่า มีหลายเหตุผลที่ยังจำเป็นต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องของความคล่องตัวในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกันในหลายหน่วยงานในการป้องกันโรค  เพราะเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องประสานขอความร่วมมือจากตำรวจและฝ่ายปกครอง หากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้ทำงานไม่รวดเร็วทันสถานการณ์

          ส่วนข้อกำหนดที่ระบุใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องห้ามการชุมนุม  ถูกตีความโยงไปกับการเมือง นายอนุทิน ย้ำว่า เมื่อยังมีการระบาดของโควิด-19 ก็ยังไม่อยากให้มีการชุมนุมแบบมีการร่วมตัวกันจำนวนมาก เพราะโควิด-19 ติดได้ง่ายในผู้คนที่รวมตัวใกล้ชิด  เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับชีวิตเราเอง และครอบครัว  จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชน  เชื่อว่า ทุกคนมีจิตสำนึกมีความห่วงใยเพื่อนร่วมชาติ ช่วงนี้ก็พยายามหลีกเลี่ยงการชุมนุมไปก่อน