เยอรมนีเผยพบผู้ป่วยโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 22

          นายเยนส์ ซพาห์น (Jens Spahn) รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี แสดงความกังวลที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ หรือสายพันธุ์ B.1.1.7 เริ่มแพร่ระบาดมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 22 ของตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 9,113 คนในเยอรมนีในวันนี้ จากเดิมเพียงร้อยละ 6 เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าเป็นแนวโน้มเดียวกับประเทศอื่นๆคือ เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษเพิ่มสองเท่าเกือบทุกๆสัปดาห์

          นายซพาห์น กล่าวว่าในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเยอรมนีพบตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษเฉลี่ยคือ ทุกๆ 5 คนจากผู้ป่วยใหม่รายวัน หลายฝ่ายเรียกร้องให้เยอรมนีล็อกดาวน์อีกครั้งเพื่อลดการแพร่ระบาด ซึ่งนายซพาห์น มองว่าเรื่องนี้อาจมีความเป็นไปได้ แต่เตือนว่าภาครัฐต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจและความสำเร็จในการควบคุมโรคในช่วงที่ผ่านมา

          ด้านสถาบันโรแบร์ท ค็อค (Robert Koch Institute) หรือ RKI  หน่วยงานการวิจัยป้องกันและควบคุมโรคของเยอรมนี เตือน แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยใหม่จะมีแนวโน้มลดลง แต่โดยรวมถือว่ายังอยู่ในระดับที่สูงมาก โรคโควิด-19 อาจจะกลับมาระบาดอีกระลอก ตัวเลขล่าสุดจาก RKI บ่งชี้ว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อประชากร 100,000 คนลดมาที่ 57 คน ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี ระบุว่ารัฐบาลจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ถ้าตัวเลขผู้ป่วยใหม่ต่อประชากร 100,000 คนในระยะ 7 วัน ลดมาอยู่ที่ 35 คน

          ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน ประชาชน 5 ล้านคนในเยอรมนีได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ขณะที่ประชาชนอีก 3 ล้านคนฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็ม ภายในสัปดาห์หน้า กระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีคาดว่า วัคซีนอีก 10 ล้านโดสจะถูกกระจายไปยังศูนย์ฉีดวัควันทั่วประเทศ ในปัจจุบัน เยอรมนีมีผู้ป่วยสะสม 2,372,209 คน เสียชีวิต 67,547 คน

Cr: CNN