คลื่นความเย็น ทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิต 37 ราย
ชาวอเมริกันเสียชีวิต 37 ราย จากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นจัดที่ปกคลุมเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส พบผู้เสียชีวิตถึง 16 ราย จากสาเหตุต่างๆ เช่นความหนาวเย็น,สูดดมควันพิษจากท่อไอเสียไหลเข้ามาภายในห้องโดยสาร ซึ่งอากาศไม่ถ่ายเท และอุบัติเหตุรถยนต์ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือพบกระจายออกไปในรัฐเทนเนสซี,โอเรกอน, เคนทักกี,นอร์ทแคโรไลนา, ลุยเซียนา,โอไฮโอ,โอกลาโฮมา และ อาคันซอ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ ( เอ็นดับเบิลยูเอส ) รายงานว่า อิทธิพลของคลื่นความเย็นจัดซึ่งยังคงปกคลุมเป็นวงกว้างในพื้นที่ตอนล่างของประเทศ ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้สภาพอากาศหนาวเย็นจัดในระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในแบบที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก
พื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือรัฐเท็กซัส ซึ่งมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ สำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐเท็กซัสขอความร่วมมือให้ประชาชนราว 7,000,000 คน หรือประมาณร้อยละ 25 ในพื้นที่ ต้มน้ำประปาก่อนดื่ม เนื่องจาก สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดสร้างความเสียหายให้กับระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการจ่ายน้ำประปา และเตือนภัยให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังว่าอุณหภูมิเย็นจัดอาจทำให้ท่อประปาแตก หรือถึงขั้นระเบิดได้
ขณะเดียวกัน ความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในรัฐเท็กซัสเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติในระดับที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยความที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศหนาวเย็นจัดลักษณะนี้ ทำให้ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าในหลายพื้นที่ถูกตัดขาด ยังมีบ้านเรือนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้อีก 490,000 หลัง ลดลงจากช่วงพีคที่ไฟดับถึง 4,500,000 หลัง หลายครอบครัวจึงตัดสินใจออกไปอาศัยอยู่ในรถยนต์เพื่อหลบจากความหนาวเย็น และแพทย์ ได้เตือนว่า การสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้พร้อมเปิดเครื่องทำความร้อนทิ้งไว้เป็นเวลานานเป็นอันตรายทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากควันพิษจากท่อไอเสียไหลเข้ามาภายในห้องโดยสาร ซึ่งอากาศไม่ถ่ายเท
นายมาร์ค วีซีย์ ส.ส.จากรัฐเท็กซัส เปิดเผยว่า มีผู้หญิงหนึ่งคนและเด็กหญิงอีกหนึ่งคนในเมืองฮิวสตันเสียชีวิต จากการสูดดมควันพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หลังเข้าไปนอนในรถยนต์และเปิดเครื่องยนต์ไว้
ส่วนที่แฮร์ริส เคาน์ตี้ ชาวบ้าน 14 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเด็ก 7 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังสูดดมควันพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจุดฟืนในบ้านทำความอบอุ่นให้กับร่างกาย
เร่งมือช่วยเต่า 4,700 ตัว หนาวจัด จนถูกคลื่นซัดเกยหาด
ภัยหนาวฉับพลันในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ทำให้เต่าทะเลราว 4,700 ตัวที่ไม่คุ้นชินกับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบนชายหาดของเกาะเซาท์ปาเดร บนชายฝั่งตอนใต้ของรัฐ กลุ่มอาสาสมัคร ช่วยกันขนย้ายฝูงเต่าทะเลราว 4,700 ตัว ไปไว้ในอ่างและบ่อเลี้ยงในศูนย์ประชุมของเกาะเซาท์ปาเดร ก่อนปล่อยพวกมันกลับสู่ท้องทะเลอีกครั้งเมื่อน้ำทะเลอุ่นขึ้นกว่านี้
ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจัดประชุมสัมมนาของเกาะเซาท์ปาเดรได้เผยแพร่คลิปวิดีโอกลุ่มอาสาสมัคร กำลังช่วยกันวางเต่าบนรถเข็นอย่างระมัดระวัง และมีฝูงเต่าหลากหลายขนาดนอนกองอยู่บนลานขององค์กร เต่าทะเลมีอาการหนาวสั่น ซึ่งเป็นภาวะที่สัตว์เลือดเย็นมีอุณหภูมิร่างกายต่ำผิดปกติจนเซื่องซึมและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เมื่ออุณหภูมิรอบตัวลดต่ำลง
ขณะที่ผู้อำนวยการบริหารของซี เทอร์เทิล อิงค์ (Sea Turtle Inc) ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยเต่าทะเลของรัฐเท็กซัสที่เป็นผู้ควบคุมภารกิจช่วยเหลือเต่าทะเลในครั้งนี้ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะปกติแล้วมีเต่าทะเลเพียง 100-500 ตัวเท่านั้น ที่ถูกคลื่นซัดจนเกยตื้นบริเวณชายหาดทางใต้ของรัฐในฤดูหนาว
ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ทำให้ประชาชนเสียชีวิต1.6 แสนราย
รายงานของกลุ่มกรีนพีซ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว มลพิษทางอากาศที่เลวร้าย ซึ่งมีสาเหตุมาจากฝุ่นขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 ทำให้ประชาชนจำนวน 160,000 ราย ในหลายเมืองใหญ่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร รายงานดังกล่าว ระบุว่า ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เกิดจากการเผาไหม้ของพลังงานฟอสซิล สามารถทำลายหัวใจ ปอดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืดอีกด้วย แม้ว่าบางพื้นที่จะมีคุณภาพของอากาศดีขึ้น เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมืองที่มีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากที่สุด
-กรุงนิวเดลีของอินเดีย เป็นเมืองที่มีอากาศเป็นพิษมากที่สุดในโลก เสียชีวิตราว 54,000 ราย
-กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศจำนวน 40,000 ราย
-ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือกระจายอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน
-นครเซาเปาโลของบราซิล
-กรุงเม็กซิโกซิตี้ของเม็กซิโก
แผ่นดินไหว 5.4 ในอิหร่าน เจ็บ 32 คน บ้านเสียหาย 78 หมู่บ้าน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างอิงสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของอิหร่านว่า หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.4 บนพื้นที่ภูเขา ใกล้กับเมืองซีสัก ในจังหวัดโคกิโลเย และโบเยอ อาฮ์มัด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน เมื่อเวลา 22.05 วันที่ 17 ก.พ. 64 ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 32 คน และอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก 78 แห่ง และบ้านบางหลังเสียหายทั้งหลัง นอกจากนี้ มีรายงานว่าประชาชนต้องออกมาอยู่นอกบ้านในเวลากลางคืน เนื่องจาก กลัวว่าอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา
อิหร่านตั้งอยู่บนแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่สำคัญหลายแห่ง และเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ย.63 เกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้กับยอดเขาดามาวานด์ ยอดเขาที่สูงที่สุดของอิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บมากกว่า 20 คน
เครื่องบินรบฝรั่งเศส ฝึกบินต่ำ เฉี่ยวสายไฟ ทำให้ไฟไหม้
เครื่องบินรบ ราฟาเอล ของกองทัพฝรั่งเศส 2 ลำ บินผ่านหมู่บ้าน เลอ กาสเตลแลต์ ใกล้เมืองมาโนสก์ ทางตอนใต้ของประเทศ ในระดับความสูงที่ต่ำมากจนไปเกี่ยวสายไฟฟ้าขาด ส่งผลทำให้เกิดไฟไหม้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบดับไป และไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้านนาน2-3 ชั่วโมง
เครื่องบินรบทั้งสองลำขึ้นบินจากฐานทัพอากาศใกล้เคียง เพื่อฝึกบินที่ระดับต่ำ นายเบอนัวต์ กัวอิน นายกเทศมนตรีบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า ตอนเกิดเหตุเขาขับรถอยู่ จู่ๆ ก็มีเครื่องบินรบบินต่ำมากจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และบินเข้าไปใต้สายไฟฟ้า เมื่อขับรถต่อไปเรื่อยๆ เขาก็เห็นสายไฟขาดห้อยลงมาบนถนน จึงรีบโทรแจ้งสำนักงานฉุกเฉินและทีมเจ้าหน้าที่ของบริษัทไฟฟ้าเอเนอดิส ทันที
ด้านโฆษกกองทัพอากาศฝรั่งเศส เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ ลา โพรวองซ์ ว่า นักบินของเครื่องที่ประสบเหตุ ลงจอดอย่างปลอดภัยที่ฐานทัพอากาศ โอรองจ์ ในเวลา 14.11 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไม่มีผู้บาดเจ็บ และตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น