การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เริ่มต้นขึ้นแล้ว ในขั้นตอนที่ให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ซักถามถามในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะเป็นการถาม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้กล่าวหา และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้ถูกกล่าวหา แต่ในวันนี้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ให้อดีตรัฐมนตรีตอบแทน ทำให้ในที่ประชุมนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. หารือสมาชิก เนื่องจากมีหลายคน และ คณะกรรมาธิการ อภิปรายว่า คำถามที่จะถามเป็นการถาม น.ส. ยิ่งลักษณ์ หากไม่มา ควรจะให้ฝ่ายป.ป.ช. ชี้แจงฝ่ายเดียว เนื่องจาก เกรงว่าฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาจะสร้างความได้เปรียบในวันแถลงปิดคดี แต่ในที่ประชุมไม่มีสมาชิกคนใดคัดค้านที่จะไม่ให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง นายพรเพชร จึงขอให้ คณะกรรมาธิการ เริ่มซักถาม เรื่องสาเหตุที่ไม่มาตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสนช. ในฐานะกรรมาธิการซักถาม ลุกขึ้นอภิปรายเพิ่มเติมถึงแนวทางการซักถามของคณะกรรมาธิการ และขอให้ประธานสนช. เชิญทั้งสองฝ่ายออกไปนอกห้องประชุมก่อน ซึ่งประธานได้เชิญทั้งสองฝ่ายออกไปก่อนเพื่อให้ที่ประชุมหารือกันก่อน
จากนั้นนายสมชาย แสวงการ สนช. เสนอประชุมลับเพื่อหารือกับสมาชิกถึงแนวทางการซักถามของคณะกรรมาธิการว่า สามารถที่จะถามบุคคลที่เป็นตัวแทนผู้ถูกกล่าวหาได้หรือไม่ ปรากฎว่า เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมเห็นด้วยที่จะให้ประชุมลับ 153 เสียง จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 174 คน และเชิญผู้สื่อข่าวออกห้องประชุม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้เหตุผลที่ให้ทีมทนายความและอดีตรัฐมนตรีมาตอบคำถามแทน เป็นการเสนอของทีมทนายความเอง ที่ต้องการใช้สิทธิตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ข้อ 154 ที่ระบุว่า ให้ที่ประชุมสามารถซักถามประเด็นปัญหากับผู้เกี่ยวข้องได้ ซึ่งก็หมายถึงผู้แทนคดี กรณีนี้ทีมทนายความและอดีตรัฐมนตรีถือเป็นผู้แทนคดี จึงมีสิทธิตอบข้อซักถามแทนได้ ซึ่งอดีตรัฐมนตรีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวอยู่แล้วทั้งการบริหาร กำกับ ควบคุม ดูแลโครงการดังกล่าว จึงสามารถชี้แจงแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ดังนั้นทีมทนายความจึงขอใช้สิทธิตามข้อบังคับอย่างเต็มที่
สานนท์