เจอครั้งแรก! กัมพูชา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์
กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ที่มีต้นทางจากอังกฤษเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจำนวน 3 คน เดินทางมาจากอินเดีย 2 คน และจีน 1 คน ทั้ง 3 คน ตรวจพบเชื้อขณะอยู่ในกระบวนการกักตัวและได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว
กระทรวงสาธารณสุข เตือนให้ชาวกัมพูชาใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ดูเหมือนประชาชนเริ่มที่จะหลงลืมเรื่องของความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในกิจกรรมที่มีผู้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น งานพิธี การเลี้ยง งานแต่งงาน และเทศกาลต่างๆ ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขภาพ กัมพูชา มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมในประเทศ 479 คน ในจำนวนนี้ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 469 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต
นายกฯ กัมพูชา สั่งลงโทษหนัก คนที่หนีการกักตัว
นายกฯฮุนเซนของกัมพูชา สั่งให้กระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม ทบทวนระดับของการลงโทษ หลังพบว่าแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากที่เดินทางกลับจากไทย พยายามหลบหนีการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงที่เชื้อโควิด-19 จะแพร่กระจายในชุมชน หากเรายังละเลย อาจเกิดสถานการณ์เลวร้ายได้
แรงงานชาวกัมพูชา ที่เดินทางกลับจากไทยหลบหนีการลาดตระเวนบริเวณชายแดนใน จ.บ้านใต้มีชัย (บันเตียเมียนเจย) เมื่อเย็นวันอาทิตย์ และเหยียบกับระเบิด ซึ่งการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายไม่เพียงแต่สร้างความเสี่ยงที่โควิด-19 จะแพร่กระจายในชุมชนเท่านั้น แต่คนดังกล่าวยังเป็นผู้พิการเสียแขนขาอีกด้วย
ข้อมูลระบุว่า จนถึงวันที่ 14 ก.พ. 64 มีแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับจากไทยอย่างน้อย 35,665 คน ในจำนวนดังกล่าวกักตัวอยู่ในศูนย์กักโรคทั้งหมด 11,857 คน และพบติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 89 คน
13 ชาติตะวันออกกลางพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
นายอาเหม็ด อัล-มานดาห์รี ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ซึ่งมีประเทศส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ในตะวันออกกลางน่าวิตก เพราะว่า 13 ประเทศในตะวันออกกลาง ตรวจพบไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ แต่ไม่ได้บอกว่ามีประเทศอะไรบ้าง ซึ่งไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดและติดเชื้อได้ง่าย
ขณะนี้ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 6,000,000 คน เสียชีวิตไปแล้ว 140,000 ราย องค์การอนามัยโลก เตือนประชาชนว่ายังคงจะต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดต่อไป แต่มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 6,300,000 คนใน 12 ประเทศ
เลบานอนเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในตะวันออกกลาง เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลต้องทำงานอย่างหนักในการรักษาผู้ป่วยที่เกือบจะเต็มกำลังสามารถแล้ว แม้จะมีการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศแล้วก็ตาม ประเทศที่มีประชากร 6,000,000 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้อพยพชาวซีเรียด้วย 1,000,000 คน พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 340,000 คน
ผลวิจัยอิสราเอล ชี้ วัคซีนไฟเซอร์ ลดอาการป่วยโควิดได้ 94%
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า แคลลิท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดูแลด้านสุขภาพใหญ่ที่สุดในอิสราเอล เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มชาวอิสราเอลที่ได้รับวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ครบ 2 เข็มจำนวนมากถึง 600,000 คน โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบในจำนวนเท่ากัน มีประวัติทางการแพทย์เหมือนกัน แต่ไม่ได้รับวัคซีนอีก 600,000 คน
ผลวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ลดการแสดงอาการป่วยจากการติดเชื้อลงถึงร้อยละ 94 นอกจากนั้นกลุ่มตัวอย่างเดียวกันยังแสดงแนวโน้มการเกิดอาการป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด-19 ลดลงถึงร้อยละ 92 อีกด้วย
นายแรน บาลิเคอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมของแคลลิท ระบุว่า ผลดังกล่าวแสดงให้เห็นโดยปราศจากข้อเคลือบแคลงว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค มีประสิทธิภาพสูงมากในการใช้งานจริง
อิสราเอล เป็นชาติที่มีการฉีดวัคซีนให้กับประชากรสูงที่สุดเมื่อเทียบอัตราส่วนของประชากร คาดว่าสิ้นเดือนนี้จะฉีดได้มากถึงร้อยละ 30 ของประชากรรวมทั้งสิ้น 9,000,000 คน
CR:CNN
เริ่มวันนี้ ! เวียดนาม สั่งประชาชน 2 ล้านคนอยู่บ้านสกัดเชื้อ
ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อในเวียดนามไม่ลดลง แม้ว่าทางการเวียดนาม จะเพิ่มมาตรการควบคุมและให้ประชาชนหลายแสนคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยติดเชื้ออยู่บ้าน แต่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.64 เวียดนามพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 637 คน จากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยติดเชื้อใน จ.หายเซวืองถึง 461 คน
ล่าสุด ทางการ ออกคำสั่งให้คนที่อยู่อาศัยใน จ.หายเซวือง ประมาณ 2,000,000 คน ต้องอยู่บ้านเป็นเวลา 15 วัน เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ 16 ก.พ.64 ในขณะที่ประเทศกำลังพยายามที่จะหยุดยั้งการระบาดครั้งใหม่ ประชาชนออกนอกบ้านได้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น ไปซื้ออาหารและยา หรือไปทำงานที่โรงงานหรือสถานประกอบการผลิตที่ไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดทำการ
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามรวมกลุ่มมากกว่า 2 คน และเมื่อต้องเดินทางออกนอกที่พัก ต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร ส่วนโรงเรียน บาร์ ร้านอาหาร และร้านคาราโอเกะ ที่หยุดล่วงหน้าตั้งแต่เทศกาลวันตรุษยังคงต้องปิดทำการต่อไป ส่วนการเดินทางเข้ามาที่พื้นที่ดังกล่าว อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะยานพาหนะที่เดินทางด้วยเหตุทางธุรกิจที่จำเป็นเท่านั้น
นอกจากคำสั่งการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ทางการ จ.หายเซวือง ได้ขอให้ประชาชนที่กำลังกักตัวอยู่ที่ศูนย์กักโรค 3 แห่งในจังหวัดย้ายสถานที่ หลังจากการติดเชื้อที่พบเมื่อไม่นานนี้แพร่กระจายมาจากศูนย์กักโรคดังกล่าว
การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครั้งล่าสุดของเวียดนามเริ่มขึ้นในภาคเหนือ และจากนั้นได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ โดยมีความเชื่อมโยงกับไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษและในแอฟริกาใต้
จีน ลุยปราบคดีวัคซีนโควิดปลอม ทำด้วยน้ำเกลือ
ทางการจีน กำลังเร่งกวาดล้างอาชญากรรมที่แสวงหาผลประโยชน์จากวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้แล้วหลายราย ในความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและแจกจ่ายวัคซีนปลอม การโก่งราคา และฉีดวัคซีนอย่างผิดกฎหมาย
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการจีน ระบุว่า มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมแล้ว 70 ราย ในจำนวนนี้ 21 คดีเกี่ยวเนื่องกับตัววัคซีน และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการแจกจ่ายวัคซีนเฟสแรก กลุ่มผู้ต้องสงสัยกลุ่มหนึ่งทำกำไรได้มากถึง 18 ล้านหยวน หรือ ราว 84.6 ล้านบาท จากวัคซีนปลอมที่ใช้น้ำเกลือหรือน้ำแร่มาใส่ในบรรจุภัณฑ์จำนวน 58,000 โดส โดยหัวหน้าแก๊งนี้ถูกจับกุมตัวได้เมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
ส่วนคดีอื่นๆ เป็นการโก่งราคาขายวัคซีนปลอม รวมถึงการให้ฉีดวัคซีนฉุกเฉินที่โรงพยาบาล หรือมีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ
สำนักงานอัยการสูงสุดของจีน ร้องขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ ในระดับภูมิภาคเพื่อให้ประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสกัดการก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่จนถึงขณะนี้จีนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงไปแล้วจำนวน 40.52 ล้านโดส
ทนาย เผย ซูจี-รองปธน.วิน มิน เตรียมขึ้นให้การต่อศาล ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นายขิ่น หม่อง ซอ ทนายความของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา เปิดเผยที่หน้าศาลในกรุงเนปิดอว์ หลังเข้าพบกับผู้พิพากษาว่า นางซูจี และ รองประธานาธิบดีวิน มิน จะขึ้นให้การต่อศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 16 ก.พ.และ 17 ก.พ. 64
นางซูจีและรองประธานาธิบดีวิน มิน ถูกทางการจับกุมตัวหลังกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 นางซูจี ถูกตั้งข้อหานำเข้าและครอบครองอุปกรณ์สื่อสารวอล์กกี้ทอล์กกี้อย่างผิดกฎหมาย ส่วนรองประธานาธิบดีวิน มิน ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดกฎระเบียบในการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการเข้าร่วมการชุมนุมหาเสียงเมื่อช่วงปลายเดือนก.ย.63
นางซูจี มีสุขภาพแข็งแรงดี ขณะที่ กำหนดการควบคุมตัวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 17 ก.พ.64 แต่ทนายความของนางซูจี เชื่อว่า จะมีการขยายเวลาควบคุมตัวนางซูจี ออกไปอีก
นายขิ่น หม่อง ซอ จะทำหน้าที่เป็นทนายต่อสู้คดีให้กับนายวิน เต็ง สมาชิกอาวุโสพรรคเอ็นแอลดี ผู้เป็นมือขวาของซูจีด้วย ซึ่งถูกทางการจับกุมดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากนายวิน เต็ง สัมภาษณ์สื่อด้วยการเรียกร้องให้ชาวเมียนมาออกมาต่อต้านการรัฐประหารให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้