นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งให้ไปหาแนวทางดูแลประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและมาลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยจนเบียดเสียดแออัดกัน รวมทั้งให้ขยายวันลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวออกไปนั้น จะต้องไปหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อีกครั้ง รวมทั้งการพิจารณาเปิดลงทะเบียนที่สาขาสถาบันการเงินของรัฐอื่นๆ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินด้วย
ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในกลุ่มผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ทางกระทรวงการคลังได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ธนาคารกรุงไทยสาขาในพื้นที่ และอาสาสมัครระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ จัดหน่วยเคลื่อนที่รับลงทะเบียน รวมทั้งกรณีผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็สามารถให้ผู้ดูแลหรือคนในครอบครัว ช่วยลงทะเบียนให้ในชื่อของผู้ป่วย ซึ่งจากฐานข้อมูลกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พบว่า คนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ปัจจุบันมีจำนวน 45,336 คน
สำหรับผู้พิการที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำกับผู้พิการ ให้สามารถได้รับสิทธิ์ โดยนับตั้งแต่วันเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีสมาร์ทโฟน และหากประชาชนมีข้อสอบถาม หรือต้องการความช่วยเหลือทางสังคม สามารถโทรได้ที่ สายด่วน 1300 บริการ 24 ชั่วโมง
แฟ้มภาพ