ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564

องค์การยาอียู เร่งรับรองวัคซีนต้านโควิดกลายพันธุ์

          นายมาร์โก คาวาเลรี ประธานทีมประเมินวัคซีนของหน่วยงานยาของสหภาพยุโรป (อีเอ็มเอ) กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อการพิจารณาวัคซีนใหม่เช่นเดียวกับในครั้งแรก เพราะการทดสอบวัคซีนต้านไวรัสกลายพันธุ์สามารถทำกับกลุ่มตัวอย่างเพียงกลุ่มเล็กๆ ได้ ดังนั้นกระบวนการทำงานเพื่อพิจารณาวัคซีนจะสามารถทำได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยการทดสอบต้องการกลุ่มตัวอย่างเพียงหลักร้อย แทนที่จะเป็นหลักหมื่น โดยอีเอ็มเอจะให้ความสำคัญกับการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันเป็นสำคัญ

         ขณะนี้ บริษัทยาที่ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ทั้งบริษัทไฟเซอร์ บริษัทโมเดอร์นา และบริษัทแอสตราเซเนกา อยู่ระหว่างการทดสอบวัคซีนกับไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันมีไวรัสกลายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันหลักๆ 3 ตัว คือ ไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิล

WHO พบข้อมูลการระบาดของโควิด-19ที่อู่ฮั่นมีถึง 13 สายพันธุ์

          แม้ว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนขององค์การอนามัยโลก (WHO) เสร็จสิ้นภารกิจการค้นหาที่มาของการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่นของจีนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ WHO ระบุว่า ยังต้องทำการศึกษาต่อเนื่อง เนื่องจากพบข้อมูลเพิ่มเติม

-การระบาดที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อเดือนธ.ค. 62 อาจกระจายวงกว้างกว่าที่เคยคิดกันไว้มาก

–พบว่ามีไวรัสโคโรนาถึง 13 สายพันธุ์ในเมืองอู่ฮั่น

-WHO พูดคุยกับเจ้าหน้าที่จีนที่ว่ากันว่าเป็นคนแรกที่ติดเชื้อเมื่อ 8 ธ.ค.62  ไม่พบว่ามีประวัติการเดินทาง

-ทีมสืบสวนได้รับข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์จีน เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 174 คนที่พบทั้งในและรอบเมืองอู่ฮั่น พบว่าในจำนวนดังกล่าว 100 คน มีผลการตรวจจากห้องทดลองยืนยันว่าติดเชื้อ ส่วนที่เหลือเป็นการวินิจฉัยทางคลินิกโดยดูจากอาการของคนไข้ 

-การเปลี่ยนแปลงของลำดับพันธุกรรมของไวรัสสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเชื้อย้ายหรือสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ในตัวคนหรือสัตว์ ตามปกติจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทั่วไปที่ไม่เป็นอันตราย แต่การพบไวรัสหลายสายพันธุ์เช่นนี้ ชี้ว่ามันอาจเคลื่อนย้ายหมุนเวียนในพื้นที่มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งอาจเป็นหลักฐานแรกที่ชี้ว่าไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายในเมืองอู่ฮั่นมาก่อนเดือนธ.ค.62

          นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO เปิดเผยว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำการศึกษาต้นตอของโควิด-19 กำลังทำรายงานสรุปผล คาดว่า ในสัปดาห์นี้จะสามารถเผยแพร่ได้  นอกจากนี้ ยืนยันว่าสมมติฐานทั้งหมดยังคงเปิดกว้าง ต้องมีการวิเคราะห์และศึกษาเพิ่มเติม

นิวซีแลนด์ เร่งสอบหาต้นตอ หลังพบการติดเชื้อรอบใหม่ในครอบครัว  

         มีผลบังคับใช้แล้ว นายกฯ จาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ สั่งล็อกดาวน์เมืองโอ๊คแลนด์ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-17 ก.พ.64 หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3 คน และเร่งสืบหาต้นตอว่าพวกเขาติดเชื้อมาจากที่ใด 

-ชาวเมืองกว่า 1,700,000 คน ต้องอยู่ในบ้าน ยกเว้นตอนออกไปซื้อของใช้สำคัญและออกไปทำงาน

-ปิดโรงเรียนกับร้านค้าชั่วคราว

-ใช้มาตรการเข้มงวดการเดินทางเข้าเมืองและออกจากเมือง

-พื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ มีการยกระดับเพิ่มขึ้น โรงเรียนและธุรกิจต่างๆ เปิดทำการได้ แต่ขอให้ทำงานเว้นระยะห่างกัน และทำงานที่บ้าน

          นางอาร์เดิร์น ระบุว่า การล็อกดาวน์นาน 3 วันนี้จะทำให้รัฐบาลได้รับข้อมูล และมีการตรวจโรคมากขึ้น และจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่า มีการระบาดเกิดขึ้นในชุมชนหรือไม่

         ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คนเป็นพ่อ แม่ และลูกสาว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าพวกเขาติดเชื้อมาจากที่ไหน แม่ทำงานที่แผนกซักล้างของสายการบินแห่งหนึ่ง ขณะที่ พ่อทำงานเป็นพ่อค้า

          ดร.แอชลีย์ บลูมฟีลด์ ผู้อำนวยการใหญ่ด้านสาธารณสุขแห่งนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ตอนนี้การสืบสวนกำลังมุ่งเน้นไปที่สถานที่ทำงานของแม่ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชายแดน

หลังตรุษจีน! ฮ่องกงเตรียมคลายมาตรการเว้นระยะห่าง

          ฮ่องกง เตรียมผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมหลังช่วงวันหยุดตรุษจีน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น นายแมทธิว ชุง หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีฮ่องกง กล่าวว่า ฮ่องกงจะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่บังคับใช้ในสถานบันเทิงและร้านอาหารตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป รัฐบาล ค่อนข้างมั่นใจว่า สถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางบวก แต่ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด มาตรการที่จะผ่อนคลาย เช่น

-เปิดบริการได้บางส่วน ในฟิตเนส ร้านเสริมสวย พิพิธภัณฑ์ และโรงภาพยนตร์

-ขยายระยะเวลาให้สามารถรับประทานอาหารที่ร้านได้จนถึงเวลา 22.00 น. อนุญาตให้นั่งในร้านอาหารได้โต๊ะ สูงสุด 4 คน

-เพิ่มมาตรการป้องกันโรคอื่น ๆ เช่น การตรวจหาเชื้อไวรัสให้กับพนักงานทุกๆ 2 สัปดาห์

-ลูกค้าจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LeaveHomeSafe หรือลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวก่อนใช้บริการ

-รัฐบาล เตรียมอนุญาตให้สามารถชุมนุมกันได้ไม่เกิน 4 คน จากเดิมที่กำหนดไว้สูงสุด 2 คน

-อนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ตามระยะเวลาและจำนวนนักเรียนที่กำหนด

          แม้สถานการณ์ของโควิด-19 จะปรับตัวดีขึ้น แต่นายชุง ขอความร่วมมือให้ประชาชนยังต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด เพราะการต่อสู้กับโควิด-19 ครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น

-สวมหน้ากากอนามัย

-ลดการชุมนุม

-รัฐบาลเตรียมที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนให้ได้มากที่สุดในปีนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

นายกฯญี่ปุ่น ย้ำเลี่ยงออกจากบ้าน ระวังอาฟเตอร์ช็อก

          ผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 140 คน ส่วนใหญ่เกิดจากการโดนเศษแก้วบาดเท้า และข้อเท้าแพลงจากการตกบันได

          ทางการกำลังเร่งกู้ไฟฟ้า ทำให้ประชาชนราว 860,000 หลังคาเรือนในภูมิภาคคันโต และโทฮุกุ รวมถึงพื้นที่รอบนอกกรุงโตเกียว ไม่มีไฟฟ้าใช้ และเกิดดินถล่มในบางพื้นที่

          นายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกฯ เตือนเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.3 นอกชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะ ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อเวลา 23.00 น. เมื่อวันเสาร์ 13 ก.พ.64 ตามเวลาท้องถิ่น ขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย ได้จัดตั้งศูนย์รับมือภัยพิบัติในทันที ไม่พบความผิดปกติของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งเมืองนามิเอะไป 74 กิโลเมตร และมีความลึกอยู่ที่ 55 กิโลเมตร จังหวัดฟูกูชิมะ, เซนได และมิยางิ สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้รุนแรงที่สุด ส่วนประชาชนในกรุงโตเกียวรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเป็นเวลา 30 วินาที

           ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เชื่อว่า เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เป็นอาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี 2554 ที่จังหวัดฟูกูชิมะ และเซนได ซึ่งเป็นภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และเกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ-ไดอิจิ ระเบิด ทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหล ทำให้มีคนเสียชีวิตและสูญหายกว่า 20,000 ราย และอีกกว่า 100,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ด้านทางการญี่ปุ่นได้ใช้เวลา 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปีแผนฟื้นฟูจึงจะเสร็จสิ้น 

วันนี้ ! กำหนดคุมตัว ‘ซูจี’ จะสิ้นสุดลง แต่ยังไร้วี่แววปล่อยตัว

          สถานการณ์ประท้วงการยึดอำนาจรัฐของกองทัพเมียนมา ชาวเมียนมาในหลายเมืองใหญ่ ออกมาเดินขบวนและชุมนุมประท้วงต่อเนื่อง รอยเตอร์ ระบุว่า กำหนดการควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี ในข้อหานำเข้าและครอบครองวิทยุสื่อสารแบบวอล์กกี้ทอล์กกี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ก.พ.64 แต่ยังไม่มีวี่แววว่ากองทัพจะปล่อยตัว

          ขณะที่สมาคมเพื่อการช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) องค์กรเอกชนเพื่อสิทธิของนักโทษการเมืองในเมียนมา ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมตัวไปแล้วมากกว่า 384 คน และส่วนใหญ่เป็นการบุกเข้ารวบตัวถึงบ้านในตอนกลางคืน

          สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา รายงานว่า บรรดาแกนนำของกลุ่มต่อต้าน เตรียมนัดหยุดงาน โดยเฉพาะในกลุ่มข้าราชการของกระทรวงสำคัญต่างๆ  รายงานข่าว ระบุว่า ที่ผ่านมาพนักงานบริษัทเอกชนหลายแห่งพากันหยุดงานเพื่อประท้วงการยึดอำนาจมาแล้ว ขณะที่แพทย์, ทนาย, ครู, วิศวกร, พนักงานรถไฟ และข้าราชการ กำลังเตรียมนัดหยุดงาน ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล นายถั่น โท อ่อง ปลัดกระทรวงโยธาธิการของเมียนมา ประกาศว่า จะเข้าร่วมในการนัดหยุดงานตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 64 เป็นต้นไป

          ขณะที่ มีการแชร์ข้อมูลผ่านทางทวิตเตอร์ว่า บริษัทโทรคมนาคมในเมียนมา แจ้งลูกค้าว่าจะตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่หลังเที่ยงคืน จนถึงเวลา 09.00 น.