*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มั่นใจว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะลงมติถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แม้จะต้องใช้เสียงมากถึง 3 ใน 5 หรือ 132 เสียงก็ตาม ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) นัดประชุมในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ จะพิจารณาสำนวนคดีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก รวม 11 คน ในข้อหาความผิดทุจริตจำนำข้าว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าในวันดังกล่าว ป.ป.ช.อาจมีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรงและพวก

+++ตลาดหุ้นและตลาดเงินอ่อนไหว หลังธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ด้วยการยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร การประกาศยกเลิกมาตรการดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะควบคุมค่าเงินฟรังก์สวิสไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับยูโร รวมทั้งไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอย และตกอยู่ในภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ และผลประกอบการที่ย่ำแย่ของธนาคารในสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,320.71 จุด ลดลง 106.38 จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,570.82 จุด ลดลง 68.50 จุด ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,992.67 จุด ลดลง 18.60 จุด

+++ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,323.20 จุด เพิ่มขึ้น 99.96 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,032.61 จุด พุ่งขึ้น 215.53 จุด ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,498.78 จุด เพิ่มขึ้น 110.32 จุด  อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินฟรังก์แข็งค่าขึ้น และได้ฉุดหุ้นกลุ่มที่ต้องพึ่งพาการส่งออกร่วงลง รวมถึงหุ้นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำอย่างสวอช กรุ๊ป ซึ่งนายนิค ฮาเย็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสวอทช์ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า นโยบายของธนาคารกลางสวิสเหมือนคลื่นยักษ์สึนามิสำหรับอุตสาหกรรมส่งออกและการท่องเที่ยว และสุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศ

+++นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยถึง กรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้ทบทวนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ยืนยันว่า การนำระบบการให้สัมปทานมาใช้ในการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมรอบที่ 21 ถือว่าเป็นระบบที่เหมาะสมกับประเทศไทยที่สุดแล้ว โดยกระทรวงพลังงานจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นประมูลแปลงสัมปทานได้จนถึงวันที่ 18 ก.พ. จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามแผนที่ได้กำหนดไว้ ส่วนผลการศึกษาของ สปช.นั้นถือเป็นข้อเสนอแนะ และพร้อมรับฟังเพื่อนำมาพิจารณา สำหรับข้อเสนอของ สปช.ที่ให้นำระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) มาใช้ควบคู่กับการเปิดสัมปทาน คงต้องพิจารณาก่อนว่าจะนำมาใช้ได้หรือไม่ แต่คงไม่ทันรอบนี้

+++กระทรวงพลังงานจะรับฟังความเห็นของ สปช.มาปรับปรุงรายละเอียด ส่วนข้อห่วงใยเรื่องความโปร่งใสในการอนุมัติ ตามขั้นตอนต่างๆ นั้น การแต่งตั้งคณะกรรมการปิโตรเลียมจะมีการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ  5 คน มีการคัดเลือกบุคคล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษี อุตสาหกรรม กฎหมายและจาก องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ รวมทั้งอยู่ในระหว่างการประมูลว่าจ้าง บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ เข้ามาตรวจสอบระบบบัญชีและรายได้ ให้มีความรอบคอบและรัดกุมยิ่งขึ้น

+++น.ส.รสนา โตสิตระกูล รองประธานกรรมการปฏิรูปพลังงาน สปช. กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ฟังเสียงมติของ สปช.ที่คัดค้านการ เปิดสัมปทานรอบที่ 21 ก็ไม่ควรส่งเรื่องมาสอบถามความเห็นของ สปช.ตั้งแต่แรก ในขณะที่มติที่ออกมามีเสียงที่ไม่เห็นด้วยเกินกึ่งหนึ่งถือเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนผ่าน สปช.อย่างมีนัยสำคัญ คะแนน 130 เสียงต่อ79เสียง งดออกเสียง 21 เสียง

+++ความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหาคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) รวม ประมาณ 1,474 ล้านบาท จำนวน 10 ราย จับกุมและเข้ามอบตัวแล้ว 7 คน หลบหนี 3 คน คือ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญพ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เรียกประชุมทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน เพื่อประมวลข้อมูล สรุปผลความคืบหน้าการดำเนินคดี นายสมพงษ์ และนายธวัชชัย ก่อนหน้านั้นติดต่อขอเข้ามอบตัวหลายครั้ง แต่หลังจากประสานมาแล้วยังไม่พบว่าเดินทางมาตามที่ระบุไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คงไม่รออีกแล้ว เพราะถือเป็นการประวิงเวลามานานแล้ว ถ้ายังไม่มอบตัว จะต้องสืบสวนและจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะนี้ชุดสืบสวนทราบเบาะแสแหล่งกบดานของผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว หากไม่มอบตัวและถูกจับกุมได้ ไม่ต้องถามถึงเรื่องการขอประกันตัวในชั้นสอบสวน

+++นอกจากนี้ เพิ่งได้รับเอกสารสรุปการตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารไทยพาณิชย์ ในระหว่างที่นายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้ต้องหาในคดี เป็นพนักงานอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้าง บิ๊กซี สุวินทวงศ์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 แต่เนื้อหาสรุปมาถึงมีเพียง 1 หน้ากระดาษเท่านั้น ทั้งที่ยังมีประเด็นข้อพิรุธอีกหลายประการ โดยเฉพาะกรณีของพนักงานธนาคารดังกล่าวอีก 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับนายทรงกลดด้วยจะต้องติดตามตัวทั้งสองมา สอบปากคำเพิ่มเติม

+++ในส่วนของนายทรงกลด และ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 มกราคม ซึ่งพนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลฝากขังต่อ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

+++ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการลักเงิน สจล.ว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบธุรกรรมเครือข่ายเพิ่มเติม เป็นเครือข่าย ล็อตสองที่มีขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายเดิมที่ยึดและอายัดทรัพย์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยการตรวจสอบสามารถระบุชื่อบุคคลได้ชัดเจน และรู้ว่าบุคคลใดเป็นผู้กระจายเงินไปยังใครบ้าง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็น "บอส" ตามที่เรียกกันหรือไม่

+++สำหรับรถลัมโบร์กีนี ของนายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือบอย ที่มี คำสั่งยึดและอายัดไว้ ขณะนี้มีการส่งเอกสารโต้แย้งมาแล้ว แต่ต้องรอให้บอยมาชี้แจงด้วยตัวเองอีกครั้ง หากพบว่าไม่เกี่ยวข้องจะมีคำสั่งเพิกถอนภายหลัง

+++ที่ประชุมป.ป.ง. มีมติให้ยึด และอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ 3 คดี คือยึดทรัพย์นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ผู้ต้องหาคดีค้าน้ำมันเถื่อน เป็นที่ดิน 33 แปลงใน จ.สงขลา และปัตตานีมูลค่า 50 ล้านบาท ซึ่งถือครองในชื่อนาง อัญญมาลย์ ชาวไร่อ้อย ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส พร้อมเรียกให้ผู้ถือครองเข้าชี้แจงถึงที่มา โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่มีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์ของนายสหชัย เพราะที่ผ่านมามีเพียงการดำเนินคดีอาญาและออกหมายจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ป.ป.ง.ไม่ได้เป็นผู้เข้าตรวจค้น แต่ได้รับการประสานข้อมูลซึ่งไม่พบทรัพย์สินในตู้เซฟ ส่วนใหญ่เป็นเอกสารสำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน บัญชีรายชื่อและการจ่ายเงินให้บุคคลต่างๆ

+++คณะกรรมการธุรกรรมยังมีมติยึด และอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เพิ่มเติมอีก 105 รายการ มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินประเภท วัตถุโบราณ ธนบัตรต่างประเทศ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 80 รายการ เป็นงาช้างแกะสลัก กำไลงาช้าง ชุดเครื่องประดับคล้ายทองคำ พระเลี่ยมทองล้อมเพชร นาฬิกาคล้ายทองฝังเพชร อยู่ระหว่างการประเมิน