กรณีที่มีรายงานข่าวว่าไทยตกขบวนรับวัคซีนฟรีจากโครงการโคแวกซ์ (Covid-19 Vaccines Global Access Facility:COVAX) หรือโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลก นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าโครงการโคแวกซ์เป็นความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations: CEPI), องค์กรกาวี (Gavi, the Vaccine Alliance) และองค์การอนามัยโลก เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งประเทศไทยได้ส่งหนังสือแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงต้นของโครงการแล้ว แต่เนื่องจากกรอบการจัดสรรวัคซีนและข้อตกลงการจองวัคซีนที่กำหนดโดยองค์การอนามัยโลกในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงต้นของการพัฒนาวัคซีน ซึ่งหมายความว่ายังมีความเสี่ยงที่ว่าวัคซีนที่จองไปแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้ ไทย ยังยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง จึงไม่เข้าข่ายได้รับวัคซีนฟรี
ในกลุ่มอาเซียน มี 6 ประเทศในอาเซียนที่ได้รับวัคซีนฟรี ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
หากไทยต้องการเข้าร่วมโครงการจะต้องซื้อวัคซีนเอง ดังนั้นประเทศไทยจึงทำความตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 จากผู้ผลิตโดยตรงจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นกว่า สามารถต่อรองราคาและเงื่อนไขได้โดยตรงกับผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลยืนยันว่า เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนไทยเป็นหลัก รัฐบาลไม่ปิดกั้นการเจรจากับที่ใดหากโคแวกซ์ปรับเงื่อนไขรวมถึงข้อเสนอต่างๆ ซึ่งหากไทยเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ยังสามารถทำข้อตกลงผ่านโคแวกซ์ได้ในอนาคต ..