กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น อนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์อิงค์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (14 ก.พ.) เพื่อให้นำไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขภายในเวลาไม่กี่วันข้างหน้า และจะเป็นก้าวสำคัญของความพยายามในการควบคุมโรคระบาด
วัคซีนของไฟเซอร์อิงค์ที่มีการพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทค มีข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายว่ามีประสิทธิภาพร้อยละ 95 ในการป้องกันอาการของโควิด-19 โดยญี่ปุ่นได้รับวัคซีนจำนวน 400,000 โดสจากโรงงานของไฟเซอร์ในเบลเยียมเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่คณะกรรมการกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าไม่พบปัญหาในการใช้วัคซีนสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และควรให้วัคซีน 2 เข็มในระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ แต่ในลำดับแรกนี้จะฉีดวัคซีนให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลประมาณ 20,000 คนที่ตกลงที่จะเข้าร่วมในการศึกษาเพื่อติดตามผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มต้นโครงการได้ในวันพุธนี้ (17 ก.พ.) ที่สถานพยาบาลในโตเกียวก่อนที่จะขยายไปที่อื่น
จากนั้นในเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนวหน้าอีก 3,700,000 คนจะเริ่มได้รับวัคซีน
ในเดือนเมษายน กลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีจำนวน 36 ล้านคนจะได้รับวัคซีน
ลำดับถัดไปคือผู้ที่มีภาวะโรคเบาหวาน โรคหัวใจและผู้ที่ทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ
และสุดท้ายคือประชากรทั่วไป
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีข้อตกลงกับบริษัทแอสตราเซเนกา และบริษัทโมเดอร์นาเพื่อให้มีวัคซีนมากพอที่จะครอบคลุมประชากร 126 ล้านคน
การกระจายวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์อิงค์ไปทั่วประเทศยังมีความท้าทายด้านลอจิสติกส์หลายประการรวมถึงการเก็บไว้ในตู้แช่แข็งที่เย็นเป็นพิเศษที่อุณหภูมิประมาณลบ 75 องศาเซลเซียส และเมื่อนำออกมาแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นและใช้ภายใน 5 วัน นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังย้ำเตือนไปยังทางการของจังหวัดต่าง ๆ ว่าไม่ให้ขนส่งยาโดยใช้รถจักรยานยนต์หรือจักรยานเพราะอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของวัคซีน
...