สหภาพยุโรปเตือนไวรัสโควิด จะยังคงอยู่ในระยะยาวแม้จะมีการเปิดตัววัคซีน

          ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป หรือ อีซีดีซี เผยแพร่คำเตือนผ่านวารสารการแพทย์ (Lancet) ว่าไวรัสโควิด-19 จะยังคงอยู่ต่อไปในระยะยาว แม้ว่าการติดเชื้อทั่วโลกจะชะลอตัวลงเกือบครึ่งหนึ่งในเดือนที่แล้วและหลายประเทศดำเนินโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปแล้ว

          นางแอนเดรีย แอมมอน หัวหน้าของ อีซีดีซี เรียกร้องให้ประเทศในยุโรปอย่าละทิ้งการป้องกันไวรัสที่มีความสามารถในการกลายพันธุ์และปรับตัวได้ ทั้งเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งผู้เชี่ยวชาญอาจต้องมีการปรับสูตรของวัคซีนเหมือนกับกรณีของไข้หวัดใหญ่ จึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่จะยังคงอยู่ต่อไป โดยนับตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกในประเทศจีนเมื่อมากกว่า 1 ปีที่แล้ว สถานการณ์ก็มีความรุนแรงขึ้นตลอดช่วงปี 2563 แต่อัตราการติดเชื้อรายใหม่ลดลงร้อยละ 44.5 ในช่วงเดือนที่ผ่านมา (มกราคม) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังคงคำเตือนที่ว่าวัคซีนจะไม่สามารถยุติการแพร่ระบาดได้จนกว่าทุกประเทศจะได้รับวัคซีนอย่างเท่าเทียมกัน การที่ประเทศร่ำรวยมีการกักตุนวัคซีนจะทำให้ต้องใช้เวลาหลายปีในการควบคุมไวรัสโควิด-19 ในระดับโลก

          คำเตือนนี้ยังมีขึ้นในขณะที่โมเดอร์นาผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯ ขอความร่วมมือจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเพิ่มปริมาณวัคซีนในขวดแต่ละขวดเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

          ส่วนในสหราชอาณาจักร ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงหลังการเร่งฉีดวัคซีน ก็ทำให้มีการเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางภายในต้นเดือนมีนาคม แต่รัฐบาลระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะยกเลิกมาตรการ เนื่องจากในปัจจุบันมีสถานการณ์ของโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักรที่แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ทำให้หลายประเทศต้องกลับเข้าสู่การปิดกั้นเพื่อควบคุมโรคระบาดอีกครั้งตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม

          นางเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน หัวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศเร่งให้สัตยาบันในแผนการทำงานมูลค่า 750,000 ล้านยูโร เพื่อฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาด นอกจากนี้การที่ยุโรปมีวัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการแม้ว่าจะมีการรับรองวัคซีนจากผู้ผลิต 3 ราย คือไฟเซอร์, โมเดอร์นาและแอสตราเซเนกา ทำให้มีข้อเสนอเรื่องการใช้วัคซีนสปุตนิกไฟว์ของรัสเซียเนื่องจากมีผลการทดสอบพบว่ามีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 91.6 พร้อมไปกับการทบทวนการตรวจสอบวัคซีนเคียวแวคของเยอรมนี

....