สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โควิด-19 ในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย ที่ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อนับจนถึงเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีเพิ่มขึ้นเป็น 13 คน นับเป็นการระบาดแบบกลุ่มก้อนระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมในสนามบิน ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว ซึ่งเชื้อไวรัสที่พบเป็นเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ระบาดเร็วที่พบในอังกฤษ
นายดาเนียล แอนดริว มุขมนตรีของรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐวิกตอเรีย เริ่มมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้เป็นต้นไป เป็นเวลา 5 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยห้ามประชาชนออกจากพื้นที่พักอาศัยตั้งแต่เที่ยงคืน ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น ห้ามการรวมตัวของประชาชน การประมูลบ้าน พิธีสมรสและการรวมตัวเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
ส่วนการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพ่น ที่ยังแข่งขันไปจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เคร็ก ไทลีย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่เมลเบิร์นปาร์ก ประเทศออสเตรเลีย แถลงด่วนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ว่า ได้ปรับรูปแบบการดำเนินการจัดการแข่งขัน หลังได้หารือกับนักกีฬาแล้ว พบว่า นักเทนนิสอยากทำการแข่งขันต่อไป จึงตัดสินใจปรับรูปแบบมาแข่งภายในบับเบิล และห้ามผู้ชมเข้าสนามแทน เชื่อว่าจะดำเนินการแข่งขันได้จนจบการแข่งขัน ซึ่งมุขมนตรี อนุญาตให้แข่งขันได้ต่อไปได้ โดยไม่มีผู้ชม เนื่องจากทั้งนักกีฬา สต๊าฟโค้ช และเจ้าหน้าที่ ได้ทำการกักตัวตามระเบียบหลังเดินทางเข้าออสเตรเลียก่อนหน้านี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันอนุญาตให้แฟนเทนนิสเข้าไปชมการแข่งขันที่เมลเบิร์นปาร์กได้วันละไม่เกิน 30,000 คน และจะลดเหลือวันละไม่เกิน 25,000 คน ตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นต้นไป