บรรดารัฐมนตรีคลัง พร้อมด้วยผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี-7)คือ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลีและแคนาดา พร้อมประธานธนาคารกลางยุโรปและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประชุมกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ในวันนี้ โดยนายริชิ ซูนัก รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมกลุ่มจี-7 ให้คำมั่นว่าจะประสานความร่วมมือกันในกลุ่มจี-7 ให้มากขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันให้ฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำรุนแรงที่สุดนับแต่ยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 2472-2482
รายงานระบุว่า ที่ประชุมกลุ่มจี-7 ต้องการจะส่งสัญญาณใหม่ๆ ถึงนักทุนทั่วโลกว่างบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่สมาชิกกลุ่มจี-7 แถลงต่อสาธารณชนจะไม่มีการปรับลดลงจากเดิม เช่น รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ประกาศงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 1,900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเนื่องจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเดิม 4,000,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในยุครัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ ที่ประชุมกลุ่มจี-7 จะหารือเรื่องการจัดทำแผนการจัดเก็บภาษีจากบริษัทดิจิทัลชั้นนำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทของชาวอเมริกัน เช่น แอมะซอนและกูเกิล เร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนในกลุ่มจี-7 ให้มีความคืบหน้าให้มากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนแผนการของไอเอ็มเอฟ ในการจัดสรรงบรวมทั้งสิ้น 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วยเหลือกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำในเรื่องการจัดทำแผนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Cr: Reuters, ฺBusiness Cornwall