'สกุลธร' เข้าพบตำรวจกองปราบ คดีสินบน 20 ล้าน ทุจริตที่ดินทรัพย์สินฯ

          นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด น้องชายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกที่กองปราบปราม ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 ฐาน “ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน”   หลังชุดสืบสวนกองปราบปราม สอบสวนขยายผลพบว่า นายสกุลธรมีความผิดในการทุจริตการร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกพิพากษาไปก่อนหน้านี้ ในคดีติดสินบนเจ้าพนักงานเพื่อเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์โดยไม่ต้องผ่านการประมูล

          พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม  เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกเฉพาะนายสกุลธรคนเดียว และแจ้งข้อหาเดียว  หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับที่นายสกุลธร จะให้การหรือต่อสู้คดีอย่างไร  ส่วนทางตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานพอสมควร จึงออกหมายเรียกได้  

          ส่วนจะออกหมายเรียกกรรมการบริหารของบริษัทรายอื่นๆ ที่มีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นมาสอบปากคำในฐานะพยานด้วยหรือไม่  ก็ขึ้นอยู่ที่นายสกุลธร จะให้การอย่างไร และมีหลักฐานไปถึงใครบ้าง

          ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก  นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวณิช พนักงานบริษัทเอกชน สองผู้ต้องหารับเงินสินบนเพื่อจัดหาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้กับนายสกุลธร ซึ่งเมื่อต้นเดือน ธ.ค.63 ทั้งสองคนและให้การเป็นประโยชน์  ประกอบกับพนักงานสอบสวนมีคำพิพากษาซึ่งระบุชัดเจนว่า นายสกุลธรจ่ายเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อต้องการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ย่านชิดลม  จากการตรวจสอบพยานหลักฐานจนแน่ชัด พบว่า นายสกุลธร มีพฤติกรรมการกระทำผิดจริง จากการสั่งจ่ายเช็คเงินสดให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จึงเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี

          มีรายงานว่า จากแนวทางการสอบสวนประกอบกับคำพิพากษาของศาล พบว่าการกระทำของนายสกุลธร สำเร็จไปแล้ว เพราะมีการจ่ายเงินสินบนไปแล้วจำนวน 20 ล้านบาท จึงมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 144  โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามกำลังพิจารณาด้วยว่า มีกรรมการบริหารบริษัทคนอื่นๆรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะการกระทำของนายสกุลธร ทำในนามบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด หากพบว่าเป็นความผิดกรรมการบริหารฯ ก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งรวมถึง นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายสกุลธร และ นายธนาธร