ศาลไม่ให้ประกันตัว เพนกวิน-อานนท์- สมยศ-หมอลำแบงค์ ผิดม.112

09 กุมภาพันธ์ 2564, 18:49น.


          การสั่งคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาที่ 1-4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีมี 2 สำนวน เรื่องแรก (คดีชุมนุม 14 พ.ย. 63) มีผู้ต้องหารายเดียว คือ นายพริษฐ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116 และชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 ได้มีคำสั่งฟ้องทั้ง 3 ข้อหา



          ส่วนอีกสำนวน (คดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง) กล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสี่ ในข้อหาตาม ม.112, ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตาม ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ รวม 11 ข้อหา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ทุกข้อหา



         กรณีที่ผู้ต้องหายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้น นายประยุทธกล่าวว่า พนักงานอัยการพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า พยานที่จะให้สอบเพิ่มเติม ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่ง เนื่องจากในสำนวนมีพยานหลักฐานทำนองเดียวกันเพียงพออยู่แล้ว ไม่ดำเนินการตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังจากนี้ทางพนักงานอัยการจะนำผู้ต้องหาทั้งสี่ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา



          หลังการให้ข่าวของนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ซึ่งเดินเข้ามาฟังการแถลงด้วย ได้ถามกลับนายประยุทธ ย้ำถึงประเด็นตามหนังสือขอความเป็นธรรมว่าหลักสิทธิเสรีภาพได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานสากล นายประยุทธชี้แจงว่า ส่วนของงานโฆษกเป็นการนำผลการสั่งของพนักงานอัยการมาเรียนต่อสื่อมวลชน ส่วนในสำนวนนั้นงานโฆษกไม่สามารถอธิบายได้ เพราะไม่ได้รับผิดชอบสำนวน และไม่แน่ใจว่าเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลหรือไม่



          ขณะที่นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลต่อมาตรฐานสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต้องชี้แจงบรรทัดฐานการดำเนินงานขององค์กรอัยการเป็นอย่างไร คดีนี้คือคดีการเมือง กระบวนการยุติธรรมสามารถปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้มากน้อยขนาดไหน



          ส่วนนายประยุทธตอบว่า ตาม ป.วิ อาญา มีหลักสันนิษฐานคนที่อัยการฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิด และให้อัยการพิจารณาถ้าพยานหลักฐานพอฟ้องก็ฟ้อง ประเด็นที่พูดสามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้ ปิดท้ายนายพริษฐ์จึงกล่าวถึงพยานที่ให้สอบเพิ่มจะพูดเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน พร้อมกล่าวโจมตีว่าองค์กรอัยการไม่เห็นความสำคัญของเสรีภาพในการแสดงออก



          สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการคดีอาญา 7 ได้นำนายพริษฐ์ หรือเพนกวินกับพวกรวม4 คนมายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล โดยยื่นฟ้องรวม 2 สำนวน คือ คดีหมายเลขดำ อ.286/2564 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ เป็นจำเลยเพียงคนเดียว กรณีระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย.2563 นายพริษฐ์ ซึ่งเป็นแกนนำจัดให้มีการชุมนุมสาธารณะบริเวณเวทีคอกวัว โดยยุยงผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 5,000 คน ให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน ดูหมิ่นองค์พระมหากษัตริย์ ราชินี และองค์รัชทายาท ตาม ม.112



          ส่วนอีกสำนวนเป็นคดีหมายเลขดำอ.287/2546 พนักงานอัยการคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์กับพวกรวม 4 คนเป็นจำเลย กรณีเมื่อระหว่างวันที่19-20 ก.ย.2563 พวกจำเลยซึ่งเป็นแกนนำ จัดให้มีการชุมนุมบริเวณม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และท้องสนามหลวง โดยมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 20,000 คน  เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก ขอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์



          ต่อมาศาลได้สอบคำให้การพวกจำเลยแล้วปรากฏว่า พวกจำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี  ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานคู่ความทั้ง2ฝ่าย โดยคดีดำอ.286/2564 นัดวันที่15 มี.ค.เวลา 09.00 น.และคดีดำอ.287/2564 วันที่ 15 มี.ค. เวลา 13.30 น. ขณะที่ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ขอปล่อยชั่วคราว แกนนำทั้ง 4 คน ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์ แห่งคดีแล้ว เห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำซ้ำๆ ต่างกรรมต่างวาระตามข้อหาเดิมหลายครั้งหลายครา กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า หาก อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวพวกจำเลยจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้นำตัวทั้ง 4 คนคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ข่าวทั้งหมด

X