สนช.ซักถาม ป.ป.ช.เรื่องข้อกฏหมายในการถอดถอน "นายนิคม"

ในการที่คณะกรรมาธิการซักถามของสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดการซักถาม นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 ประเด็นแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ในช่วงแรกของการประชุม คณะกรรมาธิการซักถามได้เริ่มตั้งข้อซักถามนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ก่อน เนื่องจากเป็นผู้ส่งเรื่องการถอดถอนมายังสนช. โดยถามว่า เหตุใด ป.ป.ช.จึงได้ให้ สนช. ดำเนินการถอดถอนนายนิคม เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว

ซึ่งนายวิชากล่าวว่า แม้รัฐธรรมนูญปี 2550 จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่นายนิคมยังใช้อำนาจหน้าที่ทำผิดขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ 2542 ม.58 ที่มีผลบังคับใช้อยู่

จากนั้น คณะกรรมาธิการ ถามว่า การกระทำของนายนิคม เป็นการกระทำความผิดกฏหมายอาญาด้วยหรือไม่ และการดำเนินการถอดถอนจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศหรือไม่อย่างไร

นายวิชาจึงตอบว่า สำนวนที่ส่งไปยังป.ป.ช.เป็นเพียงเรื่องของการถอดถอน ซึ่งแยกกับกระบวนการของอาญา และการพิจารณาจะแยกส่วนกัน ส่วนจะมีผลต่อการปรองดองหรือไม่นั้น ป.ป.ช.คำนึงถึงความปรองดองเป็นหลัก แต่การปรองดองยังต้องคำนึงถึงหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมอีกด้วย การถอดถอนจึงต้องดำเนินการต่อไป ส่วนจะมีการถอดถอนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสนช.

ส่วนที่ด้านนอกห้องประชุม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งจะต้องตอบข้อซักถาม กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 ประเด็นแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภาโดยมิชอบ ต่อที่ประชุมสนช. เช่นกันนั้น แต่นายสมศักดิ์เพิ่งเดินทางมาถึงรัฐสภาหลังจากที่การประชุมเริ่มแล้ว และกล่าวว่า ได้ส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง ป.ป.ช และ สนช.แล้ว จึงคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องมาด้วยตัวเองอีก แต่หลังจากการประชุมในวันเปิดคดี มีหลายคำถามและหลายประเด็นที่ยังค้างคาใจ วันนี้จึงจะมาตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง ทั้งเชื่อว่า สนช.จะให้ความเป็นธรรม และยืนยันว่าในขณะที่ทำหน้าที่ประธานสภา ได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนวันปิดคดี ยังไม่ยืนยันว่าจะมารับฟังด้วยตัวเองหรือไม่ ขอดูหลังจากที่ตอบข้อซักถามวันนี้ก่อน  อย่างไรก็ตามไม่มีความกังวลเรื่องการตอบคำถาม เพราะระเบียบข้อบังคับในการประชุมอยู่ในหัวหมดแล้ว

...ผสข.สานนท์ เจริญพันธุ์