คาด! สภาคองเกรส ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก.ก่อน 15 มี.ค.
พรรคเดโมแครต ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1,900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติแนวทางการจัดทำงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ budget reconciliation ด้วยคะแนนเสียง 219-209 เสียง ขณะที่ วุฒิสภา ให้การรับรองด้วยคะแนนเสียง 51-50 เสียง โดยนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงชี้ขาด 1 เสียงในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง หลังจากที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ลงคะแนนเสียงเท่ากัน 50-50 เสียง
การที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติแนวทางการจัดทำงบประมาณดังกล่าว จะช่วยปูทางให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินดังกล่าวผ่านสภาคองเกรสโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คาดว่า รัฐสภาสหรัฐฯจะสามารถลงมติให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนวันที่ 15 มี.ค. 64 ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
หุ้นสหรัฐฯทุบสถิติ-น้ำมันขึ้นแรง-ทองฟื้น คาดหวังแพ็คเกจเยียวยาโควิด-19
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันที่ 8 ก.พ.64 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ จากความคืบหน้าในแง่บวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐฯ และในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งช่วยเพิ่มแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 237.52 จุด หรือร้อยละ 0.76 ปิดที่ 31,385.76 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 28.76 จุด หรือร้อยละ 0.74 ปิดที่ 3,915.59 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 131.35 จุด หรือร้อยละ 0.95 ปิดที่ 13,987.64 จุด
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกว่าหากสภาคองเกรสเห็นชอบแพ็คเกจเยียวยาโควิด-19 จะทำให้มีการจ้างงานเต็มพิกัดในปีหน้า
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมี.ค.64 เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 57.97 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 60.56 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.63 ทั้งสองสัญญา
น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาปรับขึ้นมามากกว่าร้อยละ 60 นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.63 เนื่องจากมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับการแจกจ่ายวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับการลดกำลังผลิตจากสมาชิกโอเปกพลัส ซาอุดีอาระเบีย ประกาศจะลดกำลังผลิตเพิ่มเติมในเดือนนี้และเดือนมี.ค.64 หลังจากบรรดาสมาชิกโอเปกและพันธมิตรได้ลดกำลังผลิตกันไปแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนราคาทองคำ ปิดบวก 2 วันติด ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากความคาดหวังต่อแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 21.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,834.20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
ผู้นำทหารเมียนมา ย้ำจัดการเลือกตั้ง สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง
สถานการณ์การชุมนุมประท้วงเมียนมา ล่าสุด มีการประกาศกฎอัยการศึกในเขตปกครองท้องถิ่น 7 เขต ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ห้ามประชาชนชุมนุมกันเกิน 5 คน ห้ามการชุมนุมประท้วง พร้อมทั้งประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น. การประกาศกฎอัยการศึกมีขึ้นหลังเกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมืองใหญ่ทั่วเมียนมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 มีการใช้น้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมที่กรุงเนปิดอว์ ทำให้มีคนเจ็บอย่างน้อย 2 คน
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงทางสถานีโทรทัศน์ครั้งแรกนับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อสัปดาห์ก่อน ย้ำว่า การเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.63 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ชนะการเลือกตั้งไปนั้น มีการโกงการเลือกตั้ง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ย้ำจุดยืนว่ารัฐบาลทหารจะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงและมีระเบียบวินัย แตกต่างไปจากการปกครองของทหารในยุคก่อน และจะจัดการเลือกตั้งแบบหลายพรรคและจะมอบอำนาจให้ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งตามหลักของประชาธิปไตย
สหรัฐฯ แถลงกังวลชุมนุมในเมียนมา-ศุกร์นี้ ยูเอ็น ประชุมด่วน
สถานทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในนครย่างกุ้งและเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแล้ว พร้อมทั้งแสดงความกังวลเกี่ยวกับคำสั่งของกองทัพเมียนมา นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า เรายืนหยัดเคียงข้างชาวเมียนมา สนับสนุนสิทธิการชุมนุมอย่างสันติ ในนั้นรวมถึงการประท้วงอย่างสันติ สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
สถานการณ์ในเมียนมา ถือเป็นบททดสอบของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเคยประกาศให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ
นายไพรซ์ กล่าวว่า สหรัฐฯกำลังหาทางจำกัดเงินช่วยเหลือบางส่วนที่มอบให้กับเมียนมา และขู่ที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่
ขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะเปิดประชุมวาระพิเศษในวันศุกร์ 12ก.พ.64 เพื่อหารือวิกฤตในเมียนมา
ฝนตกหนัก ไหลลงชั้นใต้ดินโรงงานทอผ้าเถื่อนในโมร็อกโก
หลังจากเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมโรงงานทอผ้าเถื่อน ที่อยู่ชั้นใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งในเมืองแทนเจียร์ ทางตะวันตกของประเทศโมร็อกโก รายงานระบุว่า มีคนจมน้ำเสียชีวิตถึง 24 ราย อายุระหว่าง20-40 ปี โมร็อกโกเผชิญฝนตกหนักตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายเมือง เนื่องจาก ระบบระบายน้ำอุดตันหรือบริหารจัดการไม่ดี
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น น้ำจากฝนที่ตกหนักไหลลงไปในชั้นใต้ดินในขณะที่คนงานกำลังทำงานอยู่ ทำให้มีคนติดอยู่ภายในจำนวนมาก หน่วยกู้ภัยกับชาวบ้านต้องใช้เชือกดึงขึ้นมา ช่วยขึ้นมาได้แล้ว 10 คน
อุตสาหกรรมทอผ้าหรือเครื่องหนังของโมร็อกโก รวมถึงโรงงานต่างๆ ไม่มีการตรวจสอบ ทำให้คนงานต้องอยู่ในสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย
เฉลยแล้ว! น้ำสีเลือดในอินโดฯ ที่จริงแล้วเป็นน้ำจากสีย้อมผ้าจากโรงงานผ้าบาติก
ภาพที่ชาวเน็ต แห่แชร์เป็นภาพน้ำท่วมในหมู่บ้านเจงก็อต (Jenggot) จังหวัดชวากลาง ในอินโดนีเซีย ซึ่งสีน้ำเป็นสีแดงเหมือนกับสีเลือด ล่าสุด มีผู้รู้มาเฉลยว่าเป็นสีย้อมจากโรงงานผ้าบาติก ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจาก ชุมชนในย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของการทำผ้าบาติก
ผู้ใช้สื่อออนไลน์ ต่างพากันแชร์รูปกระแสน้ำท่วมที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มในหมู่บ้านแห่งนี้ จนเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ต้องออกมายืนยันว่าเป็นภาพจริง น้ำเป็นสีแดง ก็เพราะโดนสีย้อมจากโรงงานผ้าบาติกที่ถูกน้ำท่วม พอฝนตกสีก็เจือจางลง
ก่อนหน้านี้ แม่น้ำบางสายในเมืองเปอกาลองงัน (Pekalongan) ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันก็เคยแปรสภาพเป็นสีสันต่างๆ มาแล้วเนื่องจากโดนสีย้อมผ้าบาติก และเมื่อเดือน ม.ค.64 ก็มีหมู่บ้านอีกแห่งในอินโดนีเซียซึ่งเกิดน้ำท่วมเป็นสีเขียว
อินโดนีเซีย เผชิญเหตุอุทกภัยอยู่เป็นประจำ เมื่อต้นปีนี้ได้เกิดพายุฝนพัดถล่มกรุงจาการ์ตาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 43 ราย