พัทยา ลุ้นหยุดตรุษจีน การท่องเที่ยวฟื้นตัว
นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มคลายล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 เริ่มเห็นสัญญาณการเดินทางเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้มีจำนวนมากนัก หากเปรียบเทียบช่วงตรุษจีนปี 62 ภาพแตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะปี 62 เป็นช่วงที่ไม่ได้มีวิกฤตโควิด-19 การเดินทางท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมต่างๆ สามารถทำได้ปกติ
การจัดกิจกรรมปีนี้เหมือนกับปีที่แล้วที่มีการหยุดการเดินทาง เพราะเกิดระบาดโควิด-19 รอบแรก คาดหวังว่าตรุษจีนปีนี้จะมีการเดินทางมากขึ้นบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการควบคุมโควิด-19 ของรัฐบาล
พัทยา เตรียมกิจกรรมดึงดูดการท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก สมาคมแหล่งท่องเที่ยว สมาคมสปา ได้กำหนดแจกอั่งเปา บัตรกำนัลแทนเงินสด (Vocher) มูลค่า 500 บาท ให้กับนักท่องเที่ยวที่จองและเข้าพักโรงแรมในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งสามารถใช้ Vocher ดังกล่าวได้กับร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.64
ส.ภัตตาคารไทย ขอตรุษจีน คลายล็อก ‘ดริงก์’ในร้าน
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนขยายเวลาให้นั่งทานอาหารในร้านอาหารได้นานขึ้น จากเวลา 21.00 น. เป็น 23.00 น. มาได้กว่า 1 สัปดาห์ พบว่ายอดเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15 เป็นเรื่องที่ดี
บรรยากาศในช่วงตรุษจีน น่าจะไม่คึกคักมากนัก เพราะยังติดในเรื่องการเว้นระยะห่าง การติดเชื้อ และสภาพเศรษฐกิจที่มีผลต่อกำลังซื้อตรุษจีนอาจไม่ฟู่ฟ่าเหมือนในอดีต ส่วนการจะมานั่งทานในร้านอาหาร แต่ยังจำกัดเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ในร้านอาหาร ก็มีผลโดยตรงต่อกลุ่มสังสรรค์หายไป
ตอนนี้มีการส่งเรื่องจากผู้ประกอบการบ้างส่วนมาให้สมาคมประสานเรื่องการขอให้รัฐผ่อนปรนเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน เหมือนเมื่อก่อนที่มีทั้งกินและดื่ม รวมถึงการเปิดโต้รุ่งค้าอาหาร เหมือนก่อนเกิดโควิด-19 โดยเสนอขอให้ส่งเรื่องไปให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พิจารณา เรื่องนี้มองว่าเป็นดุลพินิจของรัฐว่าเห็นควรแค่ไหน เพราะเขาต้องไปดูเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดด้วย ตอนนี้มีหลายเรื่องที่เสนอมาที่สมาคมก็จะรวบรวมเสนอให้รัฐดูถึงสมดุลการค้ากับการดูแลโควิด-19
ลุ้นครม.9 ก.พ.เคาะซอฟต์โลน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าฯ ททท.เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 9 ก.พ.64 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว คาดว่า จะมีการนำมาตรการเกี่ยวกับแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) นำเสนอที่ประชุมก่อน
ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ ยังพักไว้อยู่ เพราะมองว่าขณะนี้เป็นช่วงของการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ก่อน ทั้งในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว อาทิ เที่ยวไทยวัยเก๋า หรือมาตรการเยียวยาเอกชน ที่ใช้งบประมาณจากวงเงินกู้ ได้ถูกสั่งพักเพื่อพิจารณาสถานการณ์ก่อน โดยประเมินว่าอีกไม่ช้า น่าจะมีความชัดเจนออกมากขึ้น
เริ่มวันนี้! เช็คสิทธิลงทะเบียน ‘เราชนะ’ รวมทั้งทบทวนสิทธิคนที่ไม่ผ่านคัดกรอง
การดำเนินโครงการเราชนะ วันนี้ต้องติดตามหลายเรื่อง
1.กลุ่มที่ 2 ที่ไม่ต้องลงทะเบียน เนื่องจาก รัฐบาลมีฐานข้อมูลจากการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันและมีแอปพลิเคชันเป๋าตัง แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ก.พ.64 ไม่ได้รับสิทธิให้เข้าร่วมโครงการเราชนะ หรือไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ วันนี้ เข้าไปที่เว็บไซต์ www.เราชนะ.com ยื่นทบทวนสิทธิได้ตั้งแต่ 8 ก.พ.-8 มี.ค.64 กดปุ่ม “ขอทบทวนสิทธิ” กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบบแจ้ง จากนั้นกระทรวงการคลังนำข้อมูลไปคัดกรองใหม่อีกครั้ง โดยผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิต้องมีคุณสมบัติตามที่มติครม.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 64 คือ
-มีสัญชาติไทยอายุตั้งแต่18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
-ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา33ตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม
-ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับรายได้เป็นปกติอยู่แล้ว
-ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
-ไม่เป็นผู้ที่ได้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
-รายได้พึงประเมินในเรื่องของการเสียภาษีไม่เกิน 300,000 บาท ตามฐานข้อมูลที่มีล่าสุด
-เงินฝากในทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ตามฐานข้อมูลที่มีล่าสุด
คลัง อาจปรับเกณฑ์ใช้ฐานภาษีปี 63 เยียวยา
รายงานระบุว่า สำหรับผู้ถูกตัดสิทธิจากโครงการเราชนะ เบื้องต้นมีประมาณ 8,400,000 คน ซึ่งขั้นตอนขอทบทวนสิทธิไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเพียงแต่ให้เลือกหัวข้อสาเหตุที่ถูกตัดสิทธิ เช่น ถูกตัดสิทธิเพราะมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท ให้กดขอทบทวนหัวข้อว่า ไม่ได้เป็นผู้มีเงินฝากเกินเกณฑ์ที่กำหนด หรือหากไม่ผ่านเพราะเป็นผู้อยู่ประกันตนตามมาตรา 33 ให้ขอทบทวนว่าไม่ได้อยู่กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนตกงาน หรือว่างงานในปี 63 ที่ถูกตัดสิทธิเพราะมีรายได้พึงประเมินในปี 62 เกิน 300,000 บาท กระทรวงการคลัง กำลังหาแนวทางพิจารณาช่วยเหลืออยู่ โดยอาจดูว่าจะปรับมาใช้ฐานรายได้ปี 63 ซึ่งกำลังเปิดให้ยื่นภาษีในขณะนี้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ยืนยันว่าจะดูแลช่วยเหลือแน่นอน
2.กลุ่มที่ 3 คนที่ได้ลงทะเบียนเราชนะตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.64 ตัวเลขนับถึงวันที่ 5 ก.พ.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 9,540,000 คน ซึ่งการลงทะเบียนจะเปิดถึงวันที่ 12 ก.พ.64 วันนี้เริ่มตรวจสอบสิทธิได้เลย
เตือน! มีเว็บ'เราชนะ'ปลอม
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการดาวน์โหลด อ่าน ส่ง หรือ แชร์ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับโครงการเราชนะ อย่างรอบคอบ เพราะปัจจุบันช่องทาง ที่รัฐบาลได้จัดทำสำหรับโครงการเราชนะ มีเฉพาะเว็บไซต์ www.เราชนะ.com และแอปพลิเคชันเป๋าตัง เท่านั้น ส่วนเว็บไซต์ หรือแอปฯอื่นๆ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเราชนะของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและความเข้าใจผิด จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง
กระทรวงการคลัง เตือนผู้ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างโดยมีเจตนาหลอกลวงหรือทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว โดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบอย่าง เข้มงวด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ขอนแก่น สั่งสแกน 26 อำเภอ ค้นหาคนโกงสวมสิทธิ คนละครึ่ง-เที่ยวด้วยกัน
คดีการแอบสวมสิทธิชาวบ้านหลายสิบรายของบ้านโนนค้อ หมู่ 2 ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เพื่อหวังผลประโยชน์จากโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ที่มีผู้ต้องหา 2 คน คือ
1.ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ ครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำคนเดียว ไม่ได้มีบุคคลอื่นร่วมหรือทำเป็นขบวนการ
2.นางบุหงา ดวงจันทร์ อายุ 38 ปี หรือ ฝน ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านฝาง ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นคนชักชวนชาวบ้าน ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ขณะที่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การทุจริตเกิดขึ้นใน 2 อำเภอ คือ อ.บ้านฝาง และ อ.หนองเรือ ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายทยอยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ให้ครบทุกคน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการของรัฐบาลให้ครบทุกคน จากข้อมูลยืนยันชัดเจนว่ามีผู้ร่วมขบวนการนี้ประมาณ 3-4 คน และมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ สั่งให้ทั้ง 26 อำเภอ ตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการกระทำผิดลักษณะเช่นเดียวกับทั้ง 2 โครงการนี้หรือไม่
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงทันที โดยพฤติกรรมเข้าข่ายมีความผิดทางอาญา