กรมสุขภาพจิตขอคนไทยช่วยกันฉีดวัคซีนใจ ด้วยพลังอึด ฮึด สู้ สร้างภูมิคุ้มกันจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ปรับตัวเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตได้อย่างเข้มแข็ง แบ่งปันกำลังใจให้กับตนเองและคนรอบข้าง
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนมีความเครียดเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงที่มีการระบาดในระยะแรก ทั้งการกลัวติดเชื้อจากการแพร่ระบาด กลัวการใช้ชีวิตประจำวัน การรับรู้ข่าวปลอมจนกลายเป็นความตื่นตระหนก และความเครียดจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจทั้งจากการว่างงาน และธุรกิจต้องปิดตัว เป็นต้น กรมสุขภาพจิตได้ทำการเฝ้าระวังในเรื่องของความเครียด การใช้ความรุนแรงทั้งต่อตนเองและผู้อื่น จนถึงการฆ่าตัวตาย มาโดยตลอด ซึ่งพบว่าพลังใจจากตนเองและครอบครัวมีศักยภาพสามารถช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้ จึงได้พัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า “วัคซีนใจ” โดยวัคซีนใจมี 3 ระดับ ระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน
วัคซีนในระดับบุคคลที่สามารถทำได้ด้วยตนเองนั้นเรียกว่าพลัง“อึด ฮึด สู้” ซึ่งเริ่มต้นจากการมองด้านบวกที่สร้างสรรค์ มองเห็นทรัพยากรและสัมพันธภาพดีงามรอบ ๆ ตัว ที่จะสร้างโอกาส และทำให้โอกาสในชีวิตปรากฏขึ้น ซึ่ง “อึด” คือ สภาวะจิตใจที่เข้มแข็ง สงบ มั่นคง ทนต่อแรงกดดัน ควบคุมตัวเองได้ และมั่นใจว่า ตนเองต้องเอาชนะปัญหา อุปสรรคและผ่านพ้นวิกฤตได้ และ “ฮึด” คือ การมีกำลังใจ หรือมีแรงใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไปภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน ซึ่งกำลังใจนี้มีที่มาสำคัญ คือ การสนับสนุนจากคนรอบข้าง และท้ายที่สุด “สู้” ซึ่งหมายถึง ต่อสู้เอาชนะอุปสรรค ปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์วิกฤต โดยเฉพาะความสามารถในการแก้ไขปัญหา และมีทักษะในการจัดการกับอารมณ์และความเครียด โดยเรียนรู้จากประสบการณ์ในรอบปีที่ผ่านมาร่วมด้วย
ความเครียดมักจะทำให้เกิดความคิดที่จมอยู่กับตนเอง หรือที่เรียกว่าความคิดตกร่อง แต่ก็สามารถนำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นพลัง สร้างความคิดเชิงบวกเพื่อฉุดตนเองออกจากปัญหา ทั้งจากวิธีการตกผลึกด้วยตนเอง หรือรับฟังจากคนรอบข้าง การกักตัวก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล สามารถแก้ไขได้หากได้มีการพูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือในครอบครัว
หากไม่สามารถที่จะปรึกษากับครอบครัวหรือคนรอบข้างได้ กรมสุขภาพจิตได้ทำการพัฒนาเครื่องมือเพื่อสำรวจสุขภาพใจของตนเอง ผ่านทาง MENTAL HEALTH CHECK IN หรือสามารถ โทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 โดยขณะนี้มีการเปิดการให้บริการทางระบบออนไลน์ Facebook 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตมีการทำงานเชิงรุกเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ขอให้ทุกคนสนใจ สำรวจและดูแลสุขภาพจิตของตัวเอง คนรอบข้าง และครอบครัว รับฟังและเข้าใจซึ่งกันและกัน ช่วยกันดึงพลังแฝงที่มีอยู่ในใจทุกคน ให้ “อึด ฮึด สู้” เพราะเราทุกคนจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
**********