1 ปี เหตุการณ์กราดยิงโคราชเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แถลงสรุปว่า หลังจากที่กองทัพบกมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และฟื้นฟูเยียวยา รวมถึงพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ข้อสรุปจากฝ่ายเสนาธิการ ได้เยียวยาใน 2 ลักษณะ กับ ผู้เสียชีวิตทั้ง 31 ราย และบาดเจ็บ 57 คน รวม 88 คน และได้บรรจุเป็นราชการ 31 คน สังกัด ทบ. 26 คน สตช. 4 คน และพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ 1 คน รวมถึงมี 4 คน ที่ไม่ได้รับการเยียวยาคือ ผู้ก่อเหตุและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุ , พันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ , นางอนงค์ มิตรจันทร์ และ นายพิทยา แก้วพรหม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนปลดประจำการถอดยศแม้เสียชีวิตไปแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิตามระเบียบบำเหน็จตกทอด ทั้งจ่าสิบเอกจักรพันธ์ และพันเอกอนันต์ฐโรจน์ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาประจำหน่วยกองทัพภาค โดนคาดโทษ และผู้บัญชาการหน่วยรบที่ 2 ถูก ปรับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ยศไม่ขึ้น นอกจากนี้ กองทัพบกยังปรับปรุงระเบียบการรักษาความปลอดภัยคลัง อาวุธ และปรับปรุงระบบสวัสดิการกองทัพให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งสวัสดิการภายในและนอกเหนือ
แผนสวัสดิการทั้งหมดของกองทัพ ประกอบด้วย 1.พื้นที่ที่เป็นสนามกอล์ฟทั้ง 36 แห่ง จัดทำ เป็นพื้นที่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 1 แห่ง คือ สวนสนประดิพัทธ์ อีก 2 แห่งที่ รามอินทรา กทม. และ ลานนา จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร คงเหลือ 33 แห่งเป็นสวัสดิการภายใน 2.สนาม มวย 3 แห่ง ปิดถาวรไปแล้ว 2 แห่ง คือ ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี และ ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ส่วนสนามมวยลุมพินี ผู้บัญชาการทหารบกแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจหรือสนามกีฬาที่อาจไม่มีการจัดการแข่งขันแล้ว
ส่วนสนามม้า จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันไม่ได้เปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งตั้งคณะกรรมการศึกษาสำหรับการใช้พื้นที่ว่า จะให้รื้อเปลี่ยนจากสนามม้ามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือสวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกายได้
สถานที่พักฟื้นพักผ่อน 5 แห่ง เข้าสู่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 2 แห่ง คือ ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงราย และสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนลานนา มทบ.33 จังหวัดเชียงใหม่ กำลังดำเนินการ ขณะที่อีก 2 แห่งคือ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ และหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี ยังคงเป็นสวัสดิการภายใน