การดูแลคนไทยในประเทศเมียนมา นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามพัฒนาการในประเทศเมียนมา พร้อมประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา อย่างใกล้ชิด ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเมียนมาให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารต่างๆ จากสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ และหากมีประเด็นที่ต้องการขอรับการช่วยเหลือ สามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะนี้ มีคนไทยที่เดินทางกลับจากเมียนมา ทั้งทางอากาศและทางบก ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 2,130 คน ส่วนคนไทยที่ยังอยู่ในเมียนมานั้น จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ มีจำนวน 356 คน แบ่งเป็นคนที่ประสงค์จะกลับไทย 137 คน และยังไม่ประสงค์กลับไทย 219 คน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ติดต่อสอบถามความเป็นอยู่และติดตามกับชุมชนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งทราบว่าชุมชนไทยยังดำเนินชีวิตตามปกติ และยังไม่มีรายงานว่ามีธุรกิจหรือการลงทุนของไทยได้รับผลกระทบ
ส่วนจุดผ่านแดนถาวรบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ทั้ง 6 จุด คือ 1.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก 2 จุด 2.แม่สอด-เมียวดี 2 จุด 3.บ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ 4.ระนอง-เกาะสองนั้น เปิดให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตและสินค้าผ่านได้ตามปกติ รวมถึงสนามบินทั่วประเทศเมียนมาเปิดทำการได้ตามปกติ โดยยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้านการค้าไทย-เมียนมา ในปี 2563 เมียนมาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในโลก และเป็นอันดับ 7 ในอาเซียน โดยในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2563 มีมูลค่าการค้ารวม 158,262.02 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 20,201.21 ล้านบาท ถือเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และจีน โดยสาขาการลงทุนของไทยในเมียนมาที่สำคัญที่สุด คือน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
แฟ้มภาพ