นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า บริษัทแจนเซน ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมาแล้ว แต่เอกสารยังไม่ครบ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวในเรื่องนี้จากสื่อต่างประเทศ ส่วนอีก 2 บริษัทที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 แบบฉุกเฉินมาแล้ว โดยรายที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว คือ ของบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด ส่วนองค์การเภสัชกรรม ยื่นของบริษัท ซิโนแวก ไบโอเทค จากประเทศจีน
การยื่นของขึ้นทะเบียนทั้ง 3 บริษัทเป็นการยื่นขึ้นทะเบียนแบบฉุกเฉิน ข้อมูลอาจจะยังไม่ครบ การให้ทะเบียนจะให้แบบ 1 ปี ดังนั้นทุกปีต้องมีข้อมูลมาประกอบเพิ่มเติมในช่วงที่จะต่อทะเบียน นอกจากนี้เมื่อมีการนำมาใช้จะต้องเข้าสู่ระบบมาตรฐานที่ประเทศวางไว้ และต้องมีการติดตามผลข้างเคียงจากการใช้กลับมา เพื่อให้ประเมินความปลอดภัย ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่แล้วว่าวัคซีนแต่ละชนิดที่มีการศึกษาในหลายๆ ประเทศมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ผลข้างเคียงดังกล่าวบริษัทต้องวางแผนว่าต้องเฝ้าระวังอะไร
สำหรับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำเข้ามาได้เนื่องจากสหภาพยุโรป (อียู) จำกัดการส่งออก เพราะยังไม่พอใช้ เนื่องจากทุกประเทศเป็นผู้เจรจาการจัดซื้อในจำนวนมาก หากผลิตได้เกินสัญญาก็เชื่อว่าสามารถส่งออกมาได้
นพ.สุรโชค กล่าวว่า ส่วนจำนวนที่จะนำมาใช้ อย.ไม่ได้ควบคุมด้านปริมาณ เป็นเรื่องของคนซื้อ และหน่วยงานที่จะจัดซื้อ แต่กำหนดว่าจะกระจายให้ใครต้องแจ้งมา เพื่อให้มีกระบวนการติดตาม เพราะอย่างกรณีจีนมีวัคซีนปลอมเกิดขึ้น
แฟ้มภาพ