ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
ตร.เมียนมาตั้งข้อหาซูจีนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารผิดกม.
ตำรวจเมียนมา ตั้งข้อหานางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี พรรครัฐบาลที่ถูกกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจไปว่า เธอนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารอย่างผิดกฎหมายและเธอจะต้องถูกควบคุมตัวไว้จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เพื่อสอบสวน เอกสารของตำรวจที่ยื่นต่อศาลให้ควบคุมนางซูจี วัย 75 ปี เพื่อสอบสวนระบุว่า ตำรวจเข้าค้นบ้านพักของเธอในกรุงเนปิดอว์ และพบเครื่องรับส่งวิทยุสื่อสาร วอลค์กี้ทอลค์กี้ ในบ้านของเธอ ตำรวจระบุว่า วิทยุสื่อสารดังกล่าวนำเข้ามาอย่างผิดกฏหมายและถูกนำมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ในเอกสารขอให้ศาลมีคำสั่งให้ควบคุมตัวนางซูจีไว้ เพื่อตำรวจจะได้สอบปากคำพยาน ค้นหาหลักฐานและขอคำแนะนำทางกฎหมายหลังจากที่สอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว ในขณะเดียวกัน เอกสารของตำรวจอีกฉบับแสดงให้เห็นว่าตำรวจแจ้งข้อหาประธานาธิบดีวิน มินต์ ที่ถูกโค่นล้มจากตำแหน่งในความผิดตามกฎหมายการจัดการภัยพิบัติ
ขณะเดียวกัน โฆษกของพรรคเอ็นแอลดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของเขาว่า ได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ ระบุว่า นางซูจี มนตรีแห่งรัฐ จะถูกศาลพิจารณาความผิดฐานละเมิดกฎหมายนำเข้าและส่งออก และศาลมีคำสั่งให้ควบคุมตัวเธอเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พรรคเอ็นแอลดี เชื่อว่า ขณะนี้เธอถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านพัก ส่วนประธานาธิบดีวิน มินต์ ซึ่งกองทัพควบคุมตัวไว้ตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อวันจันทร์ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้านการจัดการภัยพิบัติ
พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ทำรัฐประหารยึดอำนาจโดยอ้างเหตุผลว่า มีการทุจริตในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่พรรคเอ็นแอลดีได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น ในขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้ง ระบุว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมแล้ว
UNSCลงมติตำหนิเมียนมาไม่ได้ หลัง จีน-รัสเซียใช้สิทธิ์วีโต้
ผลการประชุมคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติ(UNSC) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกถาวรอื่นๆเช่น อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และสหรัฐฯไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมในทิศทางเดียวกันได้ จากเหตุกองทัพยึดอำนาจรัฐบาลเมียนมา เนื่องจาก ประเทศจีน หนึ่งใน 5 สมาชิกถาวรของ UNSC คัดค้านไม่ให้ UNSC ประณามกรณีกองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) และควบคุมตัวนางซูจี แกนนำระดับสูงของพรรคและส.ส.หลายร้อยคน
ด้านนายเอลเลียต ปราสส์-ฟรีแมน ผู้เชี่ยวชาญกิจการเมียนมาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ มองว่า การที่ประเทศจีนคัดค้านไม่ให้ UNSC ประณามกองทัพเมียนมา เป็นการส่งสัญญาณว่า จีนเห็นด้วยกับการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมา ซึ่งอ้างว่ามีการทุจริตอย่างแพร่หลายในการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน โดยจีนมองว่าเป็นปัญหาภายในของเมียนมาหรือตรงกับถ้อยคำที่สื่อของทางการจีนระบุไว้คือ จีนมองเรื่องนี้ว่าไม่ต่างจากการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นกิจการภายในของเมียนมา
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯระบุว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯพยายามจะติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้นำกองทัพเมียนมาทางโทรศัพท์ แต่ติดต่อกันไม่สำเร็จ สหรัฐฯจึงประกาศให้การยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาอยู่ในนิยามของคำว่า coup d'etat คือ รัฐประหาร
ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา โดยทั่วไปค่อนข้างเงียบสงบนับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจ มีทหารลาดตระเวนในเมืองใหญ่ทุกแห่งและอยู่ในช่วงการประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในนครย่างกุ้งเมื่อค่ำวานนี้ บรรดาผู้ขับขี่รถยนต์ต่างบีบแตร ขณะที่ชาวบ้านในย่านชุมชน และอาคารพักอาศัยต่างๆพร้อมใจเคาะกระทะ เพื่อแสดงถึงการไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและสำนักการแพทย์ราว 70 แห่งทั่วประเทศหยุดทำงานเพื่อประท้วงการยึดอำนาจและขอให้กองทัพปล่อยตัวนางซูจีโดยเร็ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายร้อยคน รวมถึงแพทย์ระดับสูงได้เข้าร่วมการประท้วง หลายคนติดริบบิ้นสีแดง สัญลักษณ์ของพรรค NLD ที่เสื้อ ขณะที่บางคนติดริบบิ้นสีดำ เป็นสัญลักษณ์แสดงการต่อต้านการยึดอำนาจเช่นกัน
กทม.เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เล่นเกม-กินน้ำแก้วเดียวกัน ยอดสะสมใกล้แตะ 800 คน
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 63 – 3 ก.พ. 64 รวม 799 ราย จากการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อถึงวันที่ 2 ก.พ. 64 (795 ราย) เป็นคนต่างจังหวัดที่ Admit รพ.ในพื้นที่ กทม. 156 ราย และเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ กทม. 639 ราย ส่วนใหญ่การติดเชื้อในประเทศ
ส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ที่เป็นคนในครอบครัวหรือจากคนในที่ทำงาน การไปสถานบันเทิง/สถานที่ชุมชน และการตรวจเชิงรุกในตลาด และชุมชน โดยมีการเปิดเผยTimeline 711 คน และในวันนี้ มี Timeline ผู้ติดเชื้อที่อยู่ใน กทม. ซึ่งได้สอบสวนโรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพิ่มอีก 9 คน
Time line ทั้ง 9 คนพบว่า มีผู้ติดเชื้อจากการร่วมเล่นเกมและกินน้ำแก้วเดียวกัน นอกเหนือจากคนงานย่านเพชรเกษมในโรงงานเย็บผ้า และมีแรงงานเมียนมาติดเชื้อด้วย
สำหรับการแจ้งข้อมูลการสอบสวนโรค จะรายงานข้อมูลที่ไม่พาดพึงถึงบุคคล ก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้เป็นตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 10
หญิงลาวกลับจากไทย ติดเชื้อโควิด-19
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศลาว โดยกระทรวงสาธารณสุขลาวรายงานว่าพบคนลาวติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 1 คน เป็นผู้หญิงอายุ 20 ปี อาชีพแม่บ้านในจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีรายละเอียดสอบสวนโรคนั้น เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้ติดเชื้อพร้อมด้วยเพื่อน 1 คน นั่งรถโดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ มาลงที่ด่านชายแดนช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ต่อมาวันที่ 31 ม.ค. ข้ามด่านชายแดนเข้าสู่แขวงจำปาสัก เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อ และนำตัวไปสถานที่กักตัว จนกระทั่งผลตรวจออกมายืนยันติดเชื้อ โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 35 คน ที่นั่งรถโดยสารคันเดียวกัน จึงตรวจหาเชื้อ และนำไปสถานที่กักตัว รวมยอดสะสมผู้ติดโควิดในลาว 45 คน รักษาหายแล้ว 41 คน ยังอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน
รมว.สธ.ย้ำ อยู่ระหว่างเจรจา นำวัคซีนแอสตราเซเนกาเข้าไทยภายในก.พ.
การรอวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ไม่เคยให้ข่าวเรื่องวัคซีนจะมาถึงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์คาดว่า วัคซีนจะมาตามกรอบภายในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะขณะนี้ติดปัญหาเรื่องของสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา
เช่นเดียวกับน.พ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่คาดว่าวัคซีนโควิด -19 ของแอสตราเซเนกา และซิโนแวค จะถึงไทยตามกรอบในเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ในส่วนแอสตราเซเนกา 50,000 โดส เป็นเรื่องของทางการอียูจำกัดการส่งออก เรื่องนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเช่นเดียวกับ อุปสรรคของวัคซีนจากซิโนแวคจะมอบให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติดำเนินการเจรจา หลังจากยังไม่มีการขึ้นทะเบียนในจีน โดยอาจนำข้อกฎหมายเข้ามาศึกษา เพื่อขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉิน
เปิดเงื่อนไขลงทะเบียน ‘เรารักกัน’ผ่านเป๋าตัง แจกอาทิตย์ละพัน เริ่มมี.ค.นี้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เบื้องต้นโครงการเรารักกัน รูปแบบจะเป็นเหมือน “โครงการเราชนะ” โดยนำเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย ยืนยันว่า คนในครอบครัวมาตรา 33 จะให้ทุกคน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 11 ล้านกว่าคน เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีให้ความอนุเคราะห์ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ คือ คงเหลือเงื่อนไขเดียว คนที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท จะไม่ได้รับสิทธิ์ ส่วนจะมีวงเงินต่อคนจำนวนเท่าใด ต้องกลับไปทำตัวเลขอีกครั้ง แต่อยู่ประมาณ 3,500 - 4,500 บาท เป็นการแบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์เช่นเดียวกับโครงการเราชนะ อาจให้ประมาณ 1,000 บาทต่อสัปดาห์ และคาดว่าโครงการจะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ภายในเดือน มี.ค. นี้ ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องเข้าหลักเงื่อนไข 3 ข้อ ดังนี้
-เป็นคนไทย
-มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท
-เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33
ศก.ไทยยังไม่แน่นอน กนง.หนุนกระตุ้นฟื้นตัว
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยในระยะสั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ขณะที่ในระยะถัดไปขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 แรงสนับสนุนจากภาครัฐที่เพียงพอและต่อเนื่อง และตลาดแรงงานที่เปราะบางขึ้นจากการระบาดระลอกใหม่ ทำให้จำนวนผู้ว่างงานและเสมือนว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะสั้น
ผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและธุรกิจ SMEs สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปี 2564 และจะอยู่ใกล้เคียงกับขอบล่างของกรอบเป้าหมายตลอดช่วงประมาณการณ์ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย
โดยคณะกรรมการฯ ยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ รวมถึงจะติดตามความเพียงพอของมาตรการภาครัฐและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานการณ์การระบาดทั้งในและต่างประเทศ ในการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า โดยพร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น
หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ลดลง กนง.ไม่ลดดอกเบี้ย –โควิดรอบนี้ ไม่รุนแรง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,481.75 จุด ลดลง 4.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,484.76 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้อ่อนตัวลงจากช่วงเช้า คาดว่าจะผิดหวังเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ย และยังมองว่าผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบนี้ไม่หนักเท่ารอบแรก สอดคล้องกับที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ก็ไม่ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลง แสดงให้เห็นว่าเอกชนมองผลกระทบโควิด-19 รอบนี้ไม่มากเช่นกัน ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอาจจะไม่มีความจำเป็น จึงมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่ายนี้
การอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยจึงสวนทางตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่บวก เป็นไปตามผลประกอบการของแต่ละตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตัว เช่นเดียวกับตลาดในยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวขึ้น หลังตลาดสหรัฐฯมีความผันผวนน้อยลง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นที่มีผลประกอบการแข็งแกร่ง และตลาดยังขานรับความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ของสหรัฐฯด้วย ปิดที่ระดับ 28,646.50 จุด เพิ่มขึ้น 284.33 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จนเป็นผลสำเร็จ ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 29,307.46 จุด เพิ่มขึ้น 58.76 จุด
ตำรวจ สน.ทองหล่อ คุมผู้ต้องหาปาร์ตี้ยาเค 10 คน สอบปากคำเพิ่มเติม หนึ่งในนั้นนายแบบวาบหวิวในโซเชียล
พันตำรวจเอกดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ออกตรวจเพื่อเฝ้าระวังบ้านเช่าป้องกันการมั่วสุมช่วงแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนพบว่าบ้านดังกล่าวเปิดเพลงส่งเสียงดัง และมีไฟแสงสีคล้ายจัดปาร์ตี้ จึงเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มชายหญิงอายุระหว่าง 22 ปี ขึ้นไปจำนวน 10 คน เป็นชาย 6 คน ทำอาชีพนายแบบ ดีเจ บาร์โฮส และนักเที่ยว ส่วนอีก 4 คน เป็นพริตตี้สาว กำลังนั่งดื่มสุรา เสพสารเสพติด และพบเคตามีนลักษณะผงสีขาวอยู่ในจานแก้ว น้ำหนักรวมถุง 0.7 กรัม เบื้องต้นจากการส่งตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด 7 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 4 คน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ทำงานกลางคืน และตกงานตั้งแต่มีการชัตดาวน์สถานบันเทิงในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงตระเวนเช่าบ้านหรือห้องพักรายวัน เพื่อมั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ทั้งบริเวณเลียบทางด่วนรามอินทรา และพื้นที่ สน.เตาปูน โดยครั้งนี้เช่าบ้านพักรายวันผ่านทางออนไลน์ 1 วัน วันละกว่า 1 0,000 บาท และจ้างดีเจ รวมถึงนายอิทธิพร กับเพื่อน ซึ่งเป็นนายแบบและบาร์โฮส มาให้บริการชงเหล้า เปิดเพลง โดยทั้ง 3 คนไม่พบยาเสพติดในร่างกาย ส่วนยาเสพติดต่างคนต่างนำมาเอง และบางส่วนก็ไลน์สั่งซื้อเพิ่ม แต่ไม่ใช่เคนมผง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบที่มาของยาเสพติด
พนักงานสอบสวน จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังวันพรุ่งนี้ ในข้อหาร่วมกันมีเคตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติด, และร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมในลักษณะมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค, และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนเจ้าของบ้าน อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นก็จะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป
ไม่มีเงินประกันตัว ส่งโมเดลลิ่งอนาจารเด็ก เข้าคุกสงขลา
หลังจากที่ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” แห่ง “องค์กรทำดี” ออกมาแฉพฤติกรรมฉาว โมเดลลิ่งหื่น ฉากหน้าทำตัวเป็นตุ๊ด แต่ฉากหลังกลับล่อลวงทำอนาจารเด็กหญิง ซึ่งต่อมา ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ได้จับกุมนาย “พงษ์ศักดิ์ มั่นคงวิวัฒน์” หรือ “พงษ์” อายุ 54 ปี ได้ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ก็ได้รับการประกันตัวออกไปด้วยวงเงิน 2 แสนบาท
ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา ได้แชร์ความคืบหน้าข่าวของนายพงษ์ศักดิ์ พร้อมเปิดให้เห็นหน้าจังๆ ว่า ขณะนี้ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำจังหวัดสงขลาแล้ว หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ยื่นเรื่องฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลจังหวัดสงขลาและคัดค้านการประกันตัว โดยศาลจังหวัดสงขลาได้เพิ่มวงเงินประกันเป็น 3 แสนบาท ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์ ไม่มีเงินมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความทั้งหมด 3 คน ด้านพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า จากการสอบสวนพบเครือข่ายที่เป็นโมเดลลิ่งกลุ่มของนายพงษ์ศักดิ์ ที่เข้าข่ายทำอนาจารเด็กอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี และได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านคดีเด็กจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงมาดูแลอย่างใกล้ชิด
ศาลยุติธรรม ชี้แจงโทษปรับพินัย เป็นอย่างไร
หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย นายศุภกิจ แย้มประชา รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อธิบายถึงร่างดังกล่าวว่า เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพบังคับแบบใหม่ ใช้กำหนดความผิดเล็กน้อยที่ไม่ร้ายแรง ที่ไม่ควรเป็นความผิดอาญา และเป็นกฎหมายกลางกำหนดความผิด ซึ่งเรียกว่าโทษปรับพินัย โดยผู้กระทำความผิดต้องชำระเงินค่าปรับตามที่กำหนดให้รัฐ ซึ่งการปรับนั้นไม่ใช่เป็นโทษปรับทางอาญา ไม่มีการจำคุกหรือกักขังแทนการปรับ แต่หากไม่มีเงินค่าปรับจะถูกยึดทรัพย์ผ่อนชำระ หรือทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับ หรือศาลอาจไม่สั่งปรับตักเตือนแทนก็ได้ ซึ่งต้องดูฐานะผู้กระทำผิดด้วย และไม่จำเป็นว่า ผู้กระทำผิด 2 คน ต้องปรับเท่ากันคาดมีคดีเข้าข่ายโทษปรับทางพินัยหมื่นกว่าคดี ทั้งนี้ยังมีพ.ร.บ.อีก 30 ฉบับ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นโทษปรับทางพินัยต้องนำเข้า ครม. เพื่อผ่านความเห็นชอบก่อนออกเป็นกฤษฎีกาก่อน เช่น พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง สำหรับเจ้าหน้าที่หน้างานที่มีอำนาจในการปรับ เช่น เรื่องจราจรทางบก ก็อาจเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งทางบกดูแล หากผู้กระทำผิดไม่เสียค่าปรับ ก็สามารถส่งสำนวนให้อัยการส่งฟ้องศาลได้ เช่น ไม่แสดงใบขับขี่ (ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท) สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ (ปรับไม่เกินสองพันบาท) จอดรถขายผลไม้ริมถนนสาธารณะ (ปรับไม่เกินสองพันบาท) รวมถึง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มีฐานความผิดบางฐานที่ไม่ร้ายแรง เช่น ขออนุญาตชุมนุมแต่เคลื่อนขบวน ซึ่งมีความผิดอาญาแต่กฎหมายใหม่โทษจะถูกเปลี่ยนเป็นพินัย จะมีเพียงโทษปรับเท่านั้น
ผลดีที่เกิดขึ้นคือจะไม่ใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญากับคดีเล็กน้อย คดีเข้าสู่กระบวนการของศาลน้อยลง ส่วนประชาชนจะไม่มีการบันทึกลงประวัติอาชญากร สามารถกลับคืนสู่สังคม ลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องค่าปรับ ส่วนกฎหมายพินัยจะลดการกระทำผิด หรือผู้กระทำผิดซ้ำ หรือลดโอกาสการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หรือไม่นั้น คงต้องมีการติดตามผล มองว่า ผลของการข่มขู่ยับยั้งยังคงมี ผู้กระทำผิดจะต้องจ่ายค่าปรับให้รัฐเหมือนเดิม พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลหากจะมีกฎหมายโทษปรับพินัยออกมา เนื่องจากจะช่วยลดภาระงานของศาลลง